ทำไมเราจึงห้ามให้ seed และ private key ของ wallet ของเราให้คนอื่น?
สรุปนิดๆหน่อยๆ จากคอร์ส Bitcoin, Blockchain, and Beyond ของ Skooldio แล้วน่าสนใจดีในเชิง technical เลยมาสรุปเพื่อจะได้เป็นประโยชน์นะ
ทำความรู้จัก Private Key และ Public Key
ถ้าเทียบกับการทำธุรกรรมที่ธนาคาร เราอาจจะใช้บัตรประชาชนในการทำธุรกรรม อาจจะต้องเขียนใบรายการในการทำธุรกรรม
Private Key
- เปรียบเสมือนบัตรประชาชนของเรา เอาไว้ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรม
- คล้ายๆ password ของเรา เก็บไว้เป็นความลับ มีแค่เฉพาะเราที่รู้
- ใช้ในการยืนยันธุรกรรมของเรา
- ทุกๆ private key จะมาพร้อม public key ด้วยเสมอ ทำให้คนที่ทำการตรวจสอบ สามารถถอดรหัสได้
- โดยผู้รับจะไม่รู้ว่ามาจาก private key อะไร แต่รู้ว่าลายเซ็นมาจาก private key ชุดนี้จริงๆ
public key
- เปรียบเสมือนเลขบัญชีธนาคารของเรา
- เป็นเหมือนตัวแทนเรา แต่เซ็นแทนกันไม่ได้ แต่สามารถใช้มาถอดรหัสเพื่อหา private key ได้
วิธีการลงนามในการทำธุรกรรม
ก่อนอื่นเราจะมีข้อความ ว่าเราโอนเงินไปให้ใคร จากนั้นนำ private key ของเรา ไปยัดเข้าไปกับสูตรคณิตศาสตร์ hash function และ message ของเรา จะได้ Digital Signature ออกมา
คนรับจะใช้ public key ที่เหมือนเลขบัญชีของเรา ทำการโอนเงินไปหาเราได้ เมื่อโอนเงินออก เราใช้ private key ในการเซ็นยืนยันธุรกรรมของเราได้
เมื่อเราเปิด blockchain wallet เขาให้เรารักษา Private Key ยิ่งชีพ เพราะเป็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมของเรานั่นเอง
ชำแหละส่วนประกอบใน Metamask คร่าวๆ
จริงๆนอกจากรักษา Private Key ไว้ยิ่งชีพแล้ว สิ่งที่เราต้องรักษาไว้ยิ่งชีพยิ่งกว่า คงหนีไม่พ้น Seed Phrase
ในการเปิด wallet ขึ้นมานั้น เราจะต้องจด Seed Phrase ที่เป็นคำต่างๆที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน จำนวน 12 คำ (ส่วนใหญ่จะ 12 คำ มากสุดคือ 24 คำ ของ DCENT) ไว้ในที่ที่ปลอดภัย คือ จดไว้ในกระดาษ อย่าแคปรูป ถ่ายรูป จดแบบดิจิตอล เพราะถ้า Seed Phrese เราหลุดไป เท่ากับเงินที่เรามีอยู่ใน account ต่างๆที่มี Private Key ก็จะหายไปด้วยนะ ก็คือหายไปทุก account นั่นแหละ
ดังนั้นเราควรมีกระเป๋าสำรอง เผื่อกรณีโดนแฮกด้วยเนอะ ถ้ามี Hardware Wallet ก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้น
ใน Metamask นั้น ใน wallet จะมี account หลักมาให้เราก่อน จากนั้นเราสามารถสร้าง account ขึ้นมาเพิ่มเติมกี่อันก็ได้ เมื่อเวลาเราเปลี่ยนเครื่อง หรือเอา wallet นี้ไปใช้ในเครื่องอื่น เราก็นำ Seed Phrese ที่เราจดไว้ มา recover ได้ แต่จะได้ account หลักกลับมา ดังนั้น account รองจะต้องใช้ Private Key ในการ recover กลับมา
ก็หวังว่าคนอ่านจะเข้าใจเรื่องของ Private Key, Public Key และ Seed Phrese มากขึ้นน้า
สามารถ support ค่ากาแฟเจ้าของบล็อกได้ที่ปุ่มแดงส้มสุดน่ารักที่มุมซ้ายล่าง หรือกดปุ่มตรงนี้ก็ได้จ้า
กด follow Twitter เพื่อได้รับข่าวสารก่อนใคร เช่น สปอย content ใหม่ หรือสรุป content เร็วๆในนี้จ้า
ติดตามข่าวสารและบทความใหม่ๆได้ที่
Subscribe ช่อง YouTube ของเราได้ที่
download แอพอ่านบล็อกใหม่ของเราได้ที่นี่