Outward Mindset คืออะไร มาทำความรู้จักกัน

ต่อจาก Growth Mindset มาถึงคราวของ Outward Mindset กันล่ะ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้จัก โดยเราได้รู้จัก Outward Mindset จากทาง SEAC ที่ตอนนั้นไปเรียนรู้เรื่องนี้จากการเล่น board game Magic Maze

แล้วจริง ๆ แล้วเจ้า Outward Mindset คืออะไร? เราเลยสรุปจากกิจกรรม Outward Community : เชื่อมคน-บริหารทีมในที่ทำงานด้วย Outward Mindset ของทาง SEAC เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2566 ในหัวข้อ “Outward Mindset ช่วยสร้างความสุข ความสัมพันธ์ในองค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริงหรอ ?” ซึ่งทาง SEAC ได้ลิขสิทธิ์เนื้อหาโดยตรงจากทาง Arbinger นะ

Outward Mindset ช่วยสร้างความสุข ความสัมพันธ์ในองค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริงหรอ ?

มาร่วมแลกเปลี่ยนและเรียนรู้จากประสบการณ์ของเพื่อน HR ถึงการนำ Outward Mindset ไปใช้จริงในองค์กรในหลากหลายแง่มุมทั้ง ตัวเอง การบริหารทีม รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กร จนเกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ทั้งด้านผลลัพธ์ของงานและความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น สิ่งที่จะได้เรียนรู้

- Overview: เข้าใจความหมายและคอนเซปต์ Outward Mindset ที่เชื่อมโยงกับการบริหารความสัมพันธ์ในที่ทำงาน

- Practice: ตัวอย่างการนำไปใช้จริงและประสบความสำเร็จในหลากหลายแง่มุม ทั้งตนเอง ทีมงาน และ Culture องค์กร

- Unpack: ชวนถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนแนวทางปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของแต่ละองค์กร โดยเน้นการสร้างผลลัพธ์ที่ทำได้จริง

เดี๋ยวโพสนี้เรานำสิ่งที่เราดองไว้นานแล้วมาสรุปให้ทุกคนได้อ่านกันเนอะ

Outward Mindset คืออะไร?

ปัญหาส่วนใหญ่ในการทำงานร่วมกันคือการสื่อสาร พอมาเรียน outward mindset ทำให้มี mindset ที่ถูกต้องในการสื่อสาร

ดังนั้น Outward Mindset คือ mindset ที่ใช้ในการพัฒนาความสัมพันธ์ ให้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันนั่นเอง

Build a winning culture with our proven 7-step blueprint for leaders

อันนี้เขาจะไปแบบไว ๆ เนอะ เพราะใน session พูดถึงข้อแรก

1. Develop Accountable People: เริ่มต้นจากคนในองค์กร ให้มาร่วมมือร่วมใจกัน posiblelity ส่งต่องานไปแล้วเป็นประโยชน์ และส่งต่อ impact ที่ดี
2. Foster a Culture of Helpfulness: helpful culture มาถึงอันนี้เป็นก็เป็นสุขแล้ว อันอื่นเป็นส่วนเสริม
3. Nurture employee engagement
4. Transform Conflict
5. Build Relationship: ขยายความสัมพันธ์ที่ดี
6. Recruit & Retain Talent: เอาคนเก่งเข้ามาโดยไม่ต้องอ้อนวอน
7. Take Corrective Action: ไม่มีใครไม่เคยพลาด ถ้ามีข้อผิดพลาดสามารถตักเตือนได้สบายใจ

คิดว่าอันไหนยากสุด ก็คืออันที่ 1, 2, 7

Inward Mindset vs Outward Mindset

Inward Mindset พุ่งเข้าหาเป้าหมายของเราก่อน สนใจงานความรับผิดชอบของตัวเอง เผลอมองคนรอบข้างเป็นวัตถุ → พาหนะ (ใช้งานได้), อุปสรรค (ใช้งานไม่ได้), อากาศธาตุ (ไม่สนใจ)

Outward Mindset มีความสนใจ ใส่ใจผู้อื่น เข้าอกเข้าใจคนอื่น ทุกคนต่างมี KPI ของตัวเอง win-win มองเขาเป็นคน

ดังนั้น เราจะต้องยอมรับความจริงว่าเราเผลอใช้ Inward Mindset ใส่ใครบางคน ให้หากล่องของตัวเองให้เจอ

ตัวอย่างพฤติกรรมที่มุ่งเน้นที่ตัวเอง

• email หาเพื่อนร่วมงาน บอกให้เพื่อนร่วมงานช่วยทำงานส่งภายในวันนี้
• ขอไอเดียในที่ประชุม ทุกคนเงียบกริบ
• หาคนที่อยู่ข้างเรา ในท่ามกลางความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานบางคน ในการแสดงจุดยืนของเราในความขัดแย้งครั้งนี้

Self-Awareness Tool

Collusion วงจรสมรู้ร่วมคิด มีคำถามชวนคิดว่า “ฉันเป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้อย่างไร?”

ผลระยะยาวไม่ดี ยํ่าแย่ กลัวโดนเอาคืน ทำให้เราต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาเสมอ

อันนี้เขียนเท่าที่จำได้นะ ตัวอย่างเหตุการณ์จากคุณณ้อย มีโปรเจกต์ตัดชุด uniform ซึ่งมันไม่ควรเกิน 2-3 เดือน ถามงาน คุณ ก แต่ไม่ได้ progress ด้วยความที่ตอนนั้นคุณณ้อยเพิ่งเข้ามาใหม่ในตอนนั้น และอาจจะดูดุ เลยเกิดเหตุขึ้นมา พอคุณณ้อยถามงานคุณ ก ซึ่งคุณ ก อาจจะยังทำไม่เสร็จ แต่ไม่บอกความจริงเพราะกลัวโดนดุ เลยบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เมื่อคุณณ้อยไม่ได้งานจากคุณ ก ก็จะเริ่มดุ คุณ ก มองว่าคุณณ้อยดุร้าย ใจดำ บ้าอำนาจ หลัง ๆ สถานการณ์ตึงไปเรื่อย ๆ จนคุณ ก เริ่มเล่นพวกหนักขึ้น และวนไปแบบนี้เรื่อย ๆ

พอมาดูสิ่งที่เขาทำ ว่าทำไมเขาทำแบบนี้ ก็พบว่ายังเกิดปัญหาอยู่ และเราจะหยุดวงจรนี้ได้อย่างไร? โดยคำถามว่า "เราเป็นส่วนนี้ของปัญหาได้อย่างไร?"

การ take action ที่ถูกต้อง: ให้ feedback โดยไม่ต้องไปทำโทษ หรือโชว์อำนาจใส่เขา ทำไมต้องปรับปรุงตรงนี้ เป็นประโยชน์ยังไง ในเคสนี้ถามว่าติดอะไรไหม แล้วลอง suggest ว่าใช้อันนี้สิ สอนว่าต้องทำยังไง ทำให้สถานการณ์ในทีมดีขึ้น ทำงานกันได้ราบรื่นมากขึ้น

Turn Outward Tool

ใน session พูดถึง 2 tool ด้วยกัน

Pyramid Tool

tool ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก่อนอื่นต้องจูนตัวเองก่อน

ทำไล่จากล่างขึ้นบน เริ่มจากจูน mindset มองเขาเป็นคน → สร้างความสัมพันธ์ อยากสำเร็จไปด้วยกัน มุมไหนเป็นแรงดึงดูด → ทำยังไงให้คนอยู่ร่วมกันแล้วไว้ใจ ปลอดภัย → กำลังทำอะไรอยู่หรอ ติดขัดอะไรไหม → เลือกมุมที่มีประโยชน์ ที่เขาอยากได้ยิน โยง value

แล้วมาฝั่งขวา แนะนำให้ทำ → ประโยชน์ในการทำสิ่งนี้ → objective & challenge ตั้งใจฟังให้มากพอ ว่ายังไม่สำเร็จเพราะอะไร (NOC) → earn trust

ตัวอย่าง outing อบรม

• Recommended Action: ส่ง email เกี่ยวกับกิจกรรม ว่ามีอบรม มีตารางกิจกรรม ส่งชื่อคนในทีมที่จะส่งอบรมตามช่องเหล่านี้ ส่งภายในวันไหน
• Benefit of this action: ทำแล้วได้อะไร? ส่งไปอบรมตาม KPI ของบริษัท และได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทีมอื่นได้ง่ายขึ้น
• Listen & Learn: ทำไมยังไม่ได้ส่ง challenge เช่น แก้ปัญหาของลูกค้าอยู่ เลยไม่มีเวลาอธิบาย / ถ้าเด็ก ๆ อยากไปพร้อมกัน บอกข้อดีข้อเสีย → NOC ต้องการให้ช่วยอะไร หรือมีความท้าทายอะไรหรือเปล่า → ชวนคุย ถอดรหัสตัวเอง / คนไม่อยากไป รอบก่อนหน้านี้มี feedback อะไรบ้าง ถูกต้องและถูกใจแยกกัน

กฏ 3 ข้อ เพื่อให้ win-win ร่วมกัน ใช้ในการตัดสินใจ

• ให้คุณแล้ว คนอื่นต้องได้
• ให้ไปแล้ว องค์กรเสียผลประโยชน์อะไรไหม
• สิ่งที่ให้ไป ตรงกับ mission หรือ vision กับองค์กรได้

Outward Mindset ให้เราสร้างความสัมพันธ์ที่ earn trust ไม่งั้นจะเป็นพาหนะ

The Outward Mindset Pattern (S.A.M.)

Trust building not team building

1. See Others เข้าใจคนอื่น: เขาอยากได้อะไร ตอบโจทย์เขาให้ตรง
2. Adjust Efforts ปรับวิธีการ: เราให้เขามาทำอะไร
3. Measure Impact ตรวจวัดผลกระทบ: อย่าลืมวัดผลด้วย วันนั้นกับวันนี้ อาจะไม่เหมือนกัน

ตัวอย่างคำถาม

Q1: สิ่งที่ฉันทำ ส่งผลกระทบหรืออาจส่งผลกระทบกับงานของคุณอย่างไรบ้าง (ทั้งทางบวกและทางลบ)

• Q1.1 ที่ผ่านมามีอะไรที่ฉันทำและส่งผลดีกับงานของคุณ

• Q1.2 ที่ผ่านมามีอะไรที่ฉันทำและส่งผลเสียกับงานของคุณ

Q2: คุณอยากให้ฉันปรับวิธีการทำงานหรือวิธีการสื่อสารอย่างไร เพื่อช่วยให้คุณทำงานง่ายและสำเร็จ

Q3: คุณต้องการให้ฉันติดตามสิ่งที่ฉันทำให้กับคุณอย่างไร และที่บ่อยแค่ไหน เพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยให้คุณทำงานได้สำเร็จ

สรุป

Growth Mindset ใช้พัฒนาตัวเอง ส่วน Outward Mindset ใช้พัฒนาความสัมพันธ์

สำหรับเรื่อง Growth Mindset สามารถอ่านได้ที่นี่เลย

มาทำความรู้จัก Growth Mindset กัน

หลาย ๆ คนคงจะเคยเห็น หรือเคยได้ยิน Growth Mindset กันมาแล้ว content นี้มาทำความรู้จักกัน ว่า Growth Mindset คืออะไร? แล้วเราจะต้องทำอะไรบ้างให้มี Growth Mindset บ้าง ไปดูกัน

MikkiPastelMinseo Chayabanjonglerd

อันนี้แถม

ฉีกกล่องความคิดในกรอบ สู่ความสำเร็จ ด้วย "Outward Mindset"

เมื่อวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม ทาง SEAC ที่ชวนมาเล่น เฮ้ย มาเรียน Outward Mindset ซึ่งที่นี่เขานำเข้าหลักสูตรต้นฉบับจากต่างประเทศ มาผสมสนานกับการเล่นเกมส์ ทำให้คนเรียนอย่างเราสนุก และได้ความรู้กลับไปด้วยล่ะ

ก่อนอื่นมาถึง เขาจะมีโต๊ะกลุ่มให้ นั่งโต๊ะละ 5 คน มี 4 กลุ่มเนอะ แต่ละคนก็แนะนำตัวกันก่อนเข้าสู่บทเรียน ก่อนที่คุณครูจะเริ่มสอนวิธีการเล่นบอร์ดเกมส์นี้ ซึ่งใช้เกมส์ที่ชื่อว่า Magic Maze สามารถหาเล่นหาซื้อกันได้เลย เป็นสื่อการเรียนรู้ Outward Mindset ในวันนี้

ในวันนั้นทุกคนจะได้รับบทบาทเป็นสายลับ ที่ควบคุมหุ่นยนต์ทั้ง 4 เพื่อขโมยสมบัติ และกลับออกมาอย่างปลอดภัย แต่ละคนจะได้แผ่นหน้าที่ไปคนละอัน ในกลุ่มจะต้องมี ขึ้น ลง ซ้าย ขวา ให้ครบ แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเอง เช่น ได้ไปทางซ้าย เราบังคับหุ่นยนต์ไปทางซ้าย

กติกาการเล่น คือ จะมีอันตรงกลาง 1 อัน วางตัวหมากทั้ง 4 สีไว้ เราบังคับแต่ละสีให้เดินตามทิศทางของแต่ละคน และคนที่ได้สกิลแว่นขยาย คนนั้นจะต้องเป็นคนเปิดแผนที่ใหม่ และเปิด map ให้ครบทั้ง 12 แผ่นก่อน จากนั้นค่อยดีเก็บของ และไปที่ทางออก

สิ่งที่ทำไม่ได้ในเกมส์ คือ ห้ามทะลุกำแพง, ห้ามเดินข้ามตัวอื่น ทางติดต้องขยับก่อนนะทุกคน, ห้ามพูดคุยและส่งเสียง จะคุยได้เมื่อไปจุด timeout รูปนาฬิกาทรายเท่านั้น

แต่ละตัวสามารถเดินจนสุดทางได้ และสามารถขยับไปพร้อม ๆ กันได้ แล้วมี 2 คน รับหน้าที่เคาะเตือนสติเพื่อนให้เดินหุ่นยนต์

พอคุณครูปล่อยให้เล่น บอกเลยว่ามันส์มาก แรก ๆ อาจจะมีมึน ๆ ต้องเคาะกันบ้าง อะไรบ้าง อาจจะไม่ทันใจบ้างเมื่อเพื่อนไม่เดิน อะไรงี้ แต่สุดท้ายทั้งคนและหุ่นยนต์ก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเสร็จสมบูรณ์

การเล่นบอร์ดเกมส์ Magic Maze สะท้อน Outward Mindset ยังไง?

• การเล่นเกมส์ สะท้อนการทำงานในทีม
• “บางทีเราก็เผลอมองคนในทีมเป็นวัตถุ” อาจจะมองเขาเป็นเครื่องมือ (มองเป็นพาหนะ) ถ้าไม่เผด็จการไปเลยก็จะเป็นเวย์ขาดเธอแล้วฉันตาย, กำแพง มองเป็นอุปสรรคในชีวิต ถ้าเขาอยู่สูงกว่า จึงไม่สามารถกระทำอะไรแรง ๆ ใส่ได้ จึงเป็นการยอมรับสภาพ และไม้ประดับเขาไม่เกี่ยวกับชีวิตเรา เราจึงไม่สนใจ

• ตัวเกมส์ออกแบบให้เรา focus กับตัวเอง ทุกการกระทำ ส่งผลต่อการทำงาน
• เราต้องปรับตัวเองให้ได้ ในสถานการณ์ที่ท้าทาย และต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าให้ได้ อย่างในเกมส์ที่เราวางแผนดิบดี เปิด map ทีนี่คนละทางกันเลย เพราะหน้างานไม่เหมือนแผนที่เราคุยกันไว้
• มี tool อันนึง ที่แนะนำให้ใช้ก่อนการประชุม การส่งข้อความอะไรใด ๆ และปรับตัวเองให้พร้อมสู่ความท้าทาย ชื่อว่า start the right way เขาจะแบ่งเป็นสองด้าน ว่าเห็นเขาเป็นเครื่องมือ หรือเห็นคนเท่าเทียมกัน เราจะใช้คำพูด หรือแสดงกริยาอย่างไร

See people. Not objects.
มองคนให้เป็นคน ไม่ใช่มองคนเป็นวัตถุ

ตอนท้ายมีให้เขา openchat ของศิษย์เก่า outward mindset ด้วยนะ เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถ้าใครอยากฝึก ทาง SEAC เขาออกแบบ flash card ให้เราฝึกเรื่องนี้ได้ มีทั้งหมด 52 การ์ด หยิบวันละการ์ดมาฝึก

ทาง SEAC ให้หนังสือ "วิธีพาตัวเองออกจากกล่องใบเล็ก" ให้ไปอ่านต่อที่บ้านด้วยนะ

ที่สำคัญมีขนม เครื่องดื่ม และอาหารเที่ยงแสนอร่อยให้ด้วยล่ะ ขอบคุณทาง SEAC ที่ชวนมาในวันนั้นนะคะ

ตัว flash card บน Openchat มีกิจกรรมแจกด้วยนะ ทางเราก็ได้ตัวการ์ดมาไว้ในครอบครองแล้วเรียบร้อย อาจจะมี content รีวิวหนังสือและ flash card ในโอกาสถัดไปนะ :)

เนื้อหาที่ได้ไปเรียนนั้น เราเองสรุปไว้ทั้งบนทวิต และบนหน้าเพจ สามารถไปติดตาม หรือแชร์ต่อกันได้เลย

ติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ และทุกช่องทางโดเนทกันไว้ที่นี่เลย แนะนำให้ใช้ tipme เน้อ ผ่าน promptpay ได้เต็มไม่หักจ้า

ติดตามข่าวสารแบบไว ๆ มาที่ Twitter เลย บางอย่างไม่มีในบล็อก และหน้าเพจนะ