มาทำความรู้จักกับโลกใหม่ Metaverse กับ Today at Apple ขับเคลื่อนธุรกิจสู่โลกดิจิทัลกับ อริยะ พนมยงค์
พอดีว่ากิจกรรม Today at Apple ในเดือนนี้น่าสนใจมาก ร่วมกับทาง MarketingOops! ด้วย และในวันที่กระแส Metaverse มาแรง เลยขอสรุปลงบล็อกหน่อยแล้วกันเนอะ
ตัว session นี้จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน เวลา 19.00 - 20.30 น.
ในยุคที่เทคโนโลยีรุดหน้าไม่หยุดยั้ง หากก้าวช้าไปแค่ก้าวเดียวก็อาจทำให้สูญเสียโอกาสธุรกิจมหาศาลได้ มาเปิดประสบการณ์และเรียนรู้เทรนด์ดิจิทัลใหม่กับอริยะ พนมยงค์ ซีอีโอผู้คร่ำหวอด ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับ "เมทาเวิร์ส" พื้นที่แห่งอนาคตที่โลกแห่งความจริงหลอมรวมกับโลกดิจิทัล พร้อมทำความรู้จักกับ NFT สินทรัพย์ดิจิทัลมาแรง ก่อนไปทดลองสร้างสรรค์ผลงาน NFT หนึ่งเดียวของคุณเอง โดยใช้ Keynote
✏️ สำหรับเซสชั่นในวันนี้เราจะสำหรับเซสชั่นในวันนี้เราจะได้เรียนรู้วิธีมาเปิดประสบการณ์และเรียนรู้เทรนด์ดิจิทัลใหม่กับอริยะ พนมยงค์ ซีอีโอผู้คร่ำหวอด ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับ "เมทาเวิร์ส" พื้นที่แห่งอนาคตที่โลกแห่งความจริงหลอมรวมกับโลกดิจิทัล พร้อมทำความรู้จักกับ NFT สินทรัพย์ดิจิทัลมาแรง ก่อนไปทดลองสร้างสรรค์ผลงาน NFT หนึ่งเดียวของคุณเอง โดยใช้ Keynote
Agenda ในวันนี้ จะปูพื้นไปเรื่องของ NFT แล้วก็ทดลองทำ NFT ด้วย keynote เนอะ
Getting to Know NFT
ใน session นี้จะเล่าเรื่อง cryptocurrency, NFTs และ Metaverse ด้วย passion ไม่ใช่ในมุม expert ให้คนที่มาฟังเข้าใจได้ง่ายขึ้น
A New World
โลกใหม่ แน่นอนว่าเป็นเรื่องของเทคโนโลยี บริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกเป็นบริษัทเทคโนโลยี เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีเพียงบริษัท 2-3 บริษัทเทคโนโลยีเท่านั้นใน 10 อันดีบแรก แต่ในปี 2021 มีบริษัทเทคโนโลยีถึง 8 ใน 10 เช่นกัน อย่างบริษัท Apple ปีที่แล้วเป็นที่สอง บริษัทมีมูลค่า 1.1 ล้านเหรียญ ในปีนี้เป็นที่หนึ่งมีมูลค่า 2.2 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
ดังนั้นบริษัทเทคโนโลยีจึงเติบโตในช่วงโควิด ทำให้เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Cryptocurrency
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาสิ่งนึง คือ cryptocurrency เป็นที่พูดถึงในช่วงนี้เพราะตลาดบูมมาก แต่ก็มีคนบางส่วนยังเข้าไม่ถึง และมันสำคัญยังไงกันนะ?
Internet of Information : การเคลื่อนไหวของข้อมูล เช่น text, image, video, application เป็นการวาง infrastructure ต่างๆ
และเข้าสู่ยุค Internet of Value คือ การเคลื่อนไหวของสิ่งที่มีมูลค่าบนโลก เช่น money contracts patens assets
ปัจจุบันคนใช้ internet 2 ใน 3 ของโลก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามกราฟนี้
การเติบโตของ cryptocurrency ในอนาคตมาแน่นอน มูลค่าตลาดในตอนนี้คือ 2.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สิ่งสำคัญคือ เงินจำนวนนี้มาจากไหล มาจากการไหลมาจากระบบ transitional เช่น กองทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไปยังโลก crypto
ข้อดีของ cryptocurrency
- ไม่ใช่ currency แต่เป็นเทคโนโลยี ระบบการเงินแบบใหม่เป็น decentralized ไม่มีคนควบคุมกำกับดูแล ทำธุรกรรมได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอ และระบบเป็นของประชาชน
- เป็นสกุลเงินของทุกคน ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึง ถ้ามีความรู้ความเข้าใจ
- ความปลอดภัย ธุรกรรมต่างๆไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
NFTs (Non-Fungible Token)
รูปภาพในโลกที่มีรูปเดียว มีคนเดียวเป็นเจ้าของ
คุณบี๋เพิ่งเข้าวงการ NFT เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว และมี NFT ใน wallet ทั้งสิ้นประมาณ 200 NFT
NFT บูมเพราะ COVID คนอยู่ที่บ้าน บางคนซื้อของแพงเพราะอะไร? เพราะชอบ ซื้อมาลงทุน อวดบนโลก social ก็คือ flex ซื้อแล้วอยากอวดให้คนเห็นนั่นเอง ซึ่ง NFT เป็นสิ่งที่คนเห็นในโลกออนไลน์ เป็น alternate flex
ตัวอย่าง
- Nyan cat เป็น internet meme ที่ทำให้ NFT บูมขึ้นมา ช่วง February 2021 ราคา $590K
- Beeple's "Everydays- The First 5000 Days" ช่วง February 2021 ราคา $69M
- 9 Cryptopunks ช่วง May 2021 ราคา $17M
- Alien CryptoPunks ช่วง June 2021 ราคา $11.8M
- BAYC รูปลิง มี 10,000 NFT มีหนึ่งรูปใน collection นี้ขายไป 76 ล้านบาทไทย เท่ากับราคาแลมโบกินี่ 3 คัน
NFT มีหลายรูปแบบ เช่น
NFT PFP เป็นรูป profile และมีคนใช้กันเยอะมาก เพราะเป็น identified และเป็นส่วนนึงของ community นี้
- CryptoPunk
- Bored Ape Yacht Club
NFT Art เป็นการเปิดโลกงานศิลปะของคุณบี๋ เป็นโอกาสของศิลปินในการแสดงงาน ให้คนเห็นเรามากขึ้น เช่น
- Fidenza: https://opensea.io/collection/fidenza-by-tyler-hobbs?search[sortAscending]=false&search[sortBy]=PRICE
- The currency ให้เก็บรูปแค่ version เดียว ให้เลือกว่าเก็บแบบ offline หรือแบบ NFT ถ้าเลือกเป็น NFT จะทำการทำลายของจริงทิ้ง https://opensea.io/collection/thecurrency
- Eponym เป็น generative art โดย AI เป็นคนวาดรูปนี้ https://opensea.io/collection/eponym
Business Model ใช้ smart contract หรือสัญญาอัจฉริยะ ศิลปินทำรูปต่างๆเป็น NFT ขึ้นมาขาย โดยทุกครั้งที่ขายรูปได้จะได้เป็นเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้อง sign contract จะถูกเก็บบันทึกในโลก blockchain สามารถเปลี่ยนตัวแทนขายเมื่อไหร่ก็ได้ ตราบใดที่ยังมีคนซื้องานอยู่ ศิลปินก็จะได้เงินเหมือนเดิม ในปัจจุบันคนสนใจมากขึ้นๆเรื่อยๆ จึงกลายเป็น internet culture
NFT Gaming
การเปลี่ยนถ่ายยุคสมัยของการเล่นเกมส์ :
- pay-to-play ซื้อเกมส์มาเล่น สำหรับเราถ้าในปัจจุบันก็คือซื้อเกมส์ถูกลิขสิทธิ์จากใน store ต่างๆ เช่น Stream งี้
- free-to-play เล่นฟรี ซื้อ item อยากเก่งที่สุดใน serve ก็เติมเยอะๆงี้
- pay-to-earn มีคนจ่ายเงินให้เราเล่น เล่นเกมส์แล้วได้เงิน NFT ทำให้เราได้เป็นเจ้าของ item ที่แท้จริง และขายใน marketplace ในราคาเท่าไหร่ก็ได้ที่เราต้องการ และตัว item เองสามารถตามมาที่อื่นได้ด้วย
ตัวอย่างเกมส์ pay-to-earn ก็คือ Axie Infinity บูมมากในฟิลิปปินส์ คนเล่นเป็นอาชีพ เพราะช่วงโควิด คนไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ได้เป็น scholarship มาเล่นเกมส์นี้
จำนวนผู้เล่นในฟิลิปปินส์: https://zephyrnet.com/in-the-philippines-more-people-are-searching-for-axie-infinity-than-defi-ethereum/
แล้วก็พูดถึง Sandbox ด้วย ที่เป็นการซื้อที่ดินเพื่อชีวิตในโลก Metaverse
มี Gamer 3000 ล้านคนในโลก และถ้าบวกกับคนมี cryptocurrency 200 ล้านคน จะเกิดอะไรขึ้น? ทำให้วงการเกมส์ NFT เติบโตมากขึ้นและมีโอกาสที่จะแมสขึ้นนั่นเอง
Metaverse
ไม่ใช่ concept ที่ใหม่ (พวก VR ต่างๆ)
เช่น sandbox ขายที่ดิน, decentraland, ล่าสุดก็คือ Facebook
3 trigger ที่จะทำให้ metaverse เกิดขึ้นได้
- บริษัทใหญ่ลงมาเล่น
- Gamer เข้ามาเล่น
- Facebook สร้าง มีประตูเชื่อมต่อ เข้าสู่ mass ทันที → เกิดแล้ว กำลังสร้างอยู่
ถ้าสนใจอะไรพวกนี้อาจจะเข้าไปใน Twitter, Discord หรือ Telegram เพื่อศึกษาดูได้
Hands-on Activity
ใน session นี้จะใช้ Keynote ในการร่างชิ้นงาน NFT ของเราขึ้นมา โดยสร้างกระดาษสีขาวเป็นขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดน่าจะ 1024 x 1024 เพื่อทำเป็น NFT ชนิดรูป profile และสามารถทำเป็น collection ของเราได้ด้วย
จากนั้นวาง concept ว่าจะเป็นอะไร เช่น หมา แมว นกฮูก โดยจะเลือกสิ่งที่คน relate กับมันได้ ทำให้เข้าถึงคนได้ง่าย
ต่อมาเลือก shape ตัวที่เราต้องการ แล้วก็คิดว่าแต่ละรูปจะมีรูปแบบยังไงบ้างใน collection ของเรา เช่น ใส่แว่น เราจะใส่แว่นสีอะไร แบบไหน และอาจจะมีตัว rare เช่น สีทอง
การใช้ keynote เป็น tool ในการช่วยคิดและวาง concept ของ NFT ได้ และสามารถวาดรูปเพิ่มเติม หรือใส่ text ต่างๆได้ด้วยนะ
จากผลงานของคนที่มาฟัง คุณบี๋บอกว่าส่วนใหญ่พวกนี้มักจะมีรูปมงกุฎ แล้วก็ laser eye และก็สกิลทองด้วยนะ
ส่วน wording ที่คุณบี๋ได้สอนไว้ แหะๆ
- WAGMI = We are going to met it
- NGMI = Not Going To Make It
- DYOR = Do Your Own Research
อันนี้ผลงานของเราแบบไวๆใน IG
.
download Keynote ได้ที่นี่
คู่มือการใช้ keynote
สิ่งที่คุณบี๋ฝากไว้ท้าย session คือ Nike ซุ่มจดสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ Metaverse เพื่อทำ product เสมือนจริง คำถามคือเราจะมี identity เดียวตลอดชีวิตหรือไม่ เราก็ต้องแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเนอะ แล้วการมี product แบบนี้ ต้นทุนอาจจะถูกกว่าแบบที่ผลิตรองเท้าคู่ปกติ แล้วเราจำเป็นต้องผลิตแบบนี้หรือไม่?
อันนี้เราหาข่าวมาแปะประกอบ
สุดท้าย เมื่อเรามีโอกาส เราจะต้องเข้าไปเรียนรู้ และในนั้นมีคนที่พร้อมช่วยเหลือและให้คำแนะนำเรา
ส่วนอันนี้ที่ทาง MarketingOops! สรุปจ้า
สามารถ support ค่ากาแฟเจ้าของบล็อกได้ที่ปุ่มแดงส้มสุดน่ารักที่มุมซ้ายล่าง หรือกดปุ่มตรงนี้ก็ได้จ้า
กด follow Twitter เพื่อได้รับข่าวสารก่อนใคร เช่น สปอย content ใหม่ หรือสรุป content เร็วๆในนี้จ้า
ติดตามข่าวสารและบทความใหม่ๆได้ที่
download แอพอ่านบล็อกใหม่ของเราได้ที่นี่