Live Streaming ไลฟ์สด ให้ปังแบบมือโปรกับ Asayhi Channel และซี ฉัตรปวีณ์
สัปดาห์สุดท้ายของการ workshop สุดเข้มข้น ของงาน TMRW Creators Camp 2021 กับเรื่องของ live streaming ที่ในวงการ developer ที่เราอยู่น้าน จัด event meetup ที่เป็นไลฟ์กันบ่อยๆด้วยหล่ะสิ
สัปดาห์นี้ตื่นเต้นมากกกกก เพราะเป็นแฟนคลับที่ติดตามคุณซีมานานมากๆนั่นเอง เขินนนนนนน เตรียมคำถามมาจากบ้านเลยหล่ะ!
เนื่องจากเราส่ง assignment 2 ไปแล้ว เรียกได้ว่าพยายามวาดรูปให้น้อย แต่ทำงานพอสมควร แหะๆ เลยทำบล็อกสรุปน่าจะสวยงามขึ้นแหละเนอะ
อันนี้ก็ content สรุปงานของทุกคนอะเนอะ
มาเริ่มกันเลยจ้า
เรียนรู้การ Live Streaming ไปกับ Asayhi Channel
มาถึงแบบโอ้โหวววววว ของจัดเต็มจัดหนักจัดแน่นมากกกกกๆๆๆ
ถ้าใครไม่ทันหรืออยากโดนป้ายยาเพิ่มเติม เอ้ยย ข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามตามช่องทางต่างๆได้เลย~
Objective ในวันนี้ คือ เราจะได้ความรู้เรื่องของอุปกรณ์ ความรู้ในการถ่าย video และ live stream สำหรับมือใหม่ และผู้เริ่มต้น นั่นเอง
เป้าหมายในการไลฟ์ของเราก็คือ ต้องการให้ live มีคุณภาพ ภาพชัด เสียงดี เป็นเรื่องของ production ล้วนๆ
ปัญหาภาพไม่ชัด ดูไม่คม คุณภาพยังไม่ได้
1) ใช้แอพ Facebook ในการ live : ปกติ live ผ่านมือถือ ตัวแอพจะดึงกล้องไปใช้ ทำให้ได้ความละเอียดไม่สูงมาก จะได้ประมาณ 360p 480p 720p และทำให้เซฟได้ความละเอียดตํ่า จริงๆเริ่มต้นด้วยมือถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพื่อทำให้เรารู้ปัญหา ตัวแอพทำให้เราไลฟ์ได้ต่อเนื่อง ดูได้ไม่ติดขัด
เรื่องภาพ เนื่องจากกล้องมือถือในแอพใช้โหมด auto ทั้งหมด มันเลยปรับแสงให้เราโดยอัตโนมัติ เช่นไลฟ์ขายเสื้อ ชูเสื้อดำใส่กล้อง มันเลยปรับความสว่างให้เรา พอมาชูเสื้อขาว ทำให้หน้าเรามืดเพราะมันดัน ISO ลงมา, มีการวูบวาปของแสงสีเกิดขึ้น, ถ่ายในห้องที่เปิดไฟสีแดง มันเลยเติมสีนํ้าเงินมาให้ หน้าเราเลยซีด เพราะกล้องมัน auto shift สีให้เรา ทำให้สีเพี้ยน
สรุปข้อดีคือสะดวก ข้อเสียคือข้อจำกัดของ hardware build-in front camera นั่นแหละ
2) แสงไม่พอ ไม่ได้จัดไฟ : แสงดีใช้อะไรถ่ายก็สวย แสงน้อยภาพจะออกมาไม่ดี เช่น ไปถ่าย ที่สนามบาสกลางแจ้งตอนกลางคืน ที่มีแค่ไฟ spotlight ทำให้มี noise เยอะ ดังนั้นคสรปรับแสงในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อไม่ให้เกิด noise
การจัดไฟถือเป็นเรื่อง optional เนอะ เป้าหมายคือ ให้สว่างทั้งห้อง ไม่ให้มีเงา ให้คุณภาพได้ ถ้าอยากได้ mode & tone ก็ไปจัดไฟเอา ตามความชอบใจ
3) เน็ตเน่า : ถึง 2 ปัญหาแรกเราจะแก้ได้แล้ว แต่อินเตอร์เน็ตไม่ดีก็คือจบเลย ดังนั้น อินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต้อง concern เป็นอันดับ 1
นอกจากกล้องที่ build-in มาแล้ว ไมโครโฟนก็เช่นกัน
Live บน PC แล้วภาพก็ยังไม่ชัด ...
ให้ดูตาม checklist นี้ทีละข้อเลยจ้า
แต่ละข้อขอรวมทั้งตัวปัญหาและวิธีแก้เลยแล้วกันเนาะ จะได้อ่านรวดเดียวเลย
ในที่นี้จะสรุปว่าเรา live บน software ที่ชื่อว่า OBS เนอะ ตัวนี้ใช้กันแพร่หลาย และที่สำคัญ ใช้งานได้ฟรี
0) อินเตอร์เน็ตไม่ดี ดังนั้นให้แชร์ให้น้อย ใช้สายแลน
อินเตอร์เน็ตไม่จำเป็นต้องแรง ขอเสถียรก็พอ package เน็ตบ้านตํ่าสุดก็พอ อาจจะใช้ LAN หรือ WiFi ก็ได้ แต่คนแชร์ต้องน้อย ถ้าลดจำนวนคนแชร์ไม่ได้ อาจจะแยกเส้นเพื่อ live โดยเฉพาะ ไม่ต้องไปแย่งกับใคร
จริงๆเราจะใช้ 4G ไลฟ์ได้ ถ้า speed แรงพอ แต่เรื่องคนแชร์น้อยเป็นไปได้น้อยมากๆ ใช้เป็นท่าไม่ตายแทน
1) ใช้ webcam อันนี้ปัญหาเหมือนกล้องมือถือเลย คือมัน auto ให้เรา และมี censor ขนาดเท่ามือถือ ปรับอะไรไม่ได้มากเช่นกัน แต่จะได้ความละเอียดที่มากขึ้น และได้คุณภาพเท่ากับมือถือ
กรณียกเว้นน่าจะมีไม่กี่เคสที่ใช้ webcam ได้ เช่น สตรีมเกมส์แล้วเห็นตัวเรานิดนึงอยู่มุมจองี้ แบบไม่ต้องเห็นเราชัดมาก
วิธีแก้ไข จำง่ายๆ ใช้กล้อง pro no webcam ทำไมถึงต้องใช้กล้อง pro เพราะว่ามันสามารถ lock ค่าแสงและสีให้ตรงได้ และค่ามันจะไม่เปลี่ยน
กล้องที่เหมาะกับการไลฟ์จะต้องมีคุณสมบัติ 3 ข้อ คือ
- clean HDMI เราสามารถปิด info ของ HDMI ได้ สามารถทดสอบได้โดยเอากล้องไปต่อกับ TV ที่บ้าน เพื่อเทสว่าตัวกล้องสามารถปิด info ตรงนี้ได้ไหม
- ถ่ายยาวได้ ไม่ overheat เนื่องจากการไลฟ์ครั้งนึงยาวนาน ส่วนใหญ่จะประมาณ 1-3 ชั่วโมงขึ้นไป
- จอฟลิป มีพอร์ทไมค์ / control ง่าย มีจอฟลิปจำเป็นสำหรับทำคนเดียว จะได้เห็นหน้าเราในกล้องชัดเจน มีพอร์ทไมค์เพื่อให้เสียงเข้ากล้องได้เลย
มีแจกโพยกล้องด้วย
Panasonic Lumix :
G7 / G85 / G95 / FZ1000 Mk II / FZ300 / FZ2500 / GH5 / G9 / S5 / S1 / S1R / S1H / …
ปล. G100 ได้ แต่ยังไม่แนะนำเนื่องจากไลฟ์แล้วจอดับ,
Canon EOS:
200D MK II / 850D / 90D / 5D Mk IV / M50 MK II / 6D Mark II / R / RP / R6 / R5
Sony:
A64000 / A6600 / A7ii - A7R IV / A75 iii / ZV-1
ทั้งหมดจะส่งออกทั้งภาพและเสียงผ่าน HDMI และสามารถฟลิปจอได้บางรุ่น ก็อ่านรีวิวเอาแหละเนอะ
2) ใช้กล้อง แต่ตั้งค่ากล้องไม่ถูกต้อง ซื้อตามแล้ว ทำไมได้ไม่เท่าเขานะ เกิดจากการที่เราตั้งค่ากล้องไม่ถูกต้องนั่นเอง ทำให้ภาพไม่ชัดได้ เป็นในส่วน production และอุปกรณ์
วิธีตั้งค่าให้ถูกต้อง ตั้งเป็นโหมด video, ใช้ speed shutter 25 ขึ้นไป ไม่งั้นภาพจะกระตุกนะเออ
3) Video Capture ไม่ได้คุณภาพ คือในท้องตลาดมีเยอะมาก หลากหลายราคา เราต้องเลือกอันที่มีคุณภาพมาใช้ ไม่งั้นเราจะเสียเวลาในการลองของไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะเจออันที่ใช้ได้ ดังนั้นให้ดูตัวที่ช่องต่างๆใช้งานเป็นประจำ แล้วให้ลอกตามไป เพื่อให้จบทีละปัญหา
แล้ว Video Capture คืออะไรหล่ะ? เป็นตัวกลางระหว่างกล้องและคอมพิวเตอร์ของเรา เอาภาพที่ได้จากกล้องเข้าไปในคอมของเรา
ตัวอุปกรณ์หลักๆ ขา input จะต่อกับกล้อง เป็น HDMI และ ขา output ก็เป็น usb ต่อเข้าคอม ถ้าอยากดูตัวเองอีกจอนึง จะต้องมี HDMI ที่จอออกจออีก port นึง
Video Capture จะมี 2 ประเภท คือ
- HDMI to USB3.0
- แบบการ์ด PCIe เสียบลง Mainboard PC (จะเสถียรกว่าแบบ USB เพราะถ้าแบบแรกจะมีจังหวะตอนเราขยับแล้วสายบางทีขยับด้วยงี้)
ในส่วนโพยจะเป็นดังนี้
Video Capture USB :
Elgato HD60s / Camlink 4K
Advanced Photo Systems
Avermedia GC311 / GC551
Video Capture PCIc:
Elgato HD60 Pro / 4K60 Pro
Avermedia GC570 / GC573
4) ตั้งค่าโปรแกรม Streaming ผิดหรือไม่เหมาะ : อย่าใส่มั่ว ให้ศึกษาเรื่อง bitrate กับ encode โดยตั้ง bitrate ให้เหมาะกับความละเอียด และ encode ให้เหมาะกับ spec คอม
แต่ละ platform จะมี guideline ให้เราบน website เลยจ้า
เริ่มกันที่ YouTube กันก่อนเลยจ้า
- 1080p ใช้ video bitrate standard frame rate 8,000 Kbps และ high frame rate ที่ 12,000 Kbps
- 720p ใช้ video bitrate standard frame rate 5,000 Kbps และ high frame rate ที่ 7,500 Kbps
Kbps ย่อมาจาก kilobytes per second นั่นเอง
ของ Facebook สามารถดู guideline ฝั่ง Facebook Gaming ได้เลยจ้า
ถามว่าใส่ตัวเลขเกินนี้ได้ไหม? ได้ แต่ ฝั่งคนดูจะกระตุก และเปลืองเน็ต เนื่องจากต้องดึง frame มาเยอะนั่นเอง
5) แสงไม่เพียงพอ + ไม่ได้จัดไฟ
แสงเป็นสิ่งสำคัญในเรื่องภาพเลย ถ้าแสงน้อย noise จะเยอะ ดังนั้นเราจะต้องจัดแสงให้เพียงพอ และมีการจัดไฟแต่ละแบบแตกต่างกันไป แล้วแต่งานของเรา
อันนี้ไปตามต่อในช่องเขาได้
6) สเปคคอมตํ่าเกินไป มีส่วนให้มีปัญหาในการสตรีมพอสมควร ทำให้ภาพไม่ชัดได้
เอาโพยไปจ้า
จริงๆตํ่ากว่านี้ทำได้ ดูเป็นสเปคไป ไม่แนะนำ Intel U เพราะตัวมันจะเหนื่อยเกินไป ไลฟ์ไม่ค่อยไหว
Notebook :
- CPU : AMD Ryzen 7 4xxx รหัส H ขึ้นไป / Intel i5 Gen10 รหัส H
- การ์ดจอแยก : RX5500m / GTX1650 ขึ้นไป
- RAM : 16GB ถ้ามีให้แค่ 8GB ซื้อ RAM เพิ่มได้
PC Desktop:
- CPU : AMD Ryzen 5 3600 ขึ้นไป / Intel i5 9400 ขึ้นไป
- การ์ดจอแยก : RX5500XT / GTX1650 ขึ้นไป
- RAM : 16GB
ใช้การ์ดจอแยกนะเออ อย่าลืม บางคนบอกว่าช่วงนี้แพง หายาก เราเดาว่าเอาไปขุด bitcoin อีกแน่ๆเลย
จัดประกอบร่าง
ถ้าเราทำ checklist ผ่านหมดแล้ว จัดประกอบได้ เย้ๆ
การเชื่อมต่อ HDMI อย่างง่าย กล้องบางตัวอาจจะต้องใช้ adapter แปลง แล้วเชื่อมต่อสาย HDMI เข้า Video Capture แล้วต่อเข้าคอมอีกทีนึง ส่วนความยาวสายนั้น ถ้าอยู่ในระยะใกล้ๆใช้สายอ่อนได้
โดย คุณไบร์ทจัดประกอบให้ดูสดๆเลย รื้อสายออกให้ดูกันเลยจ้า ก่อนอื่นเตรียมกล้อง กล้องต้องมีขาตั้ง เอาแบตออก ใช้สายต่อตรง จริงๆเรื่องอุปกรณ์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่จุกจิก จึงให้เคลียร์เรื่องอุปกรณ์ให้เรียบร้อยเสียก่อน
ต่อ Video Capture ให้เรียบร้อย
จากนั้นเปิดโปรแกรม OBS ไปที่ Settings
เพื่อตั้งค่าดังต่อไปนี้
- Video ใช้ 1920 x 1800 ทั้งสองที่เหมือนกัน (ตอนที่ลงโปรแกรมใหม่ๆมันจะ auto ตรงนี้มาให้เลย) เป็น full HD และ set framerate ที่ 60 ถ้าเราสตรีมลง Youtube จะได้ตามนี้เลย ส่วน Facebook จะได้ตาม account ยังไม่ต้องสนใจ
- Output สามารถตั้งค่า bitrate ตาม guideline แต่ละ platform ให้เหมาะสมได้เลย ใช้ keyframe interval 2 หรือ 3 ก็ได้ ตั้ง CPU Usage Preset เป็น veryfast ตั้ง Profile เป็น High และ Tune เป็น zerolatency
- Stream เลือก Service เป็น custom เพื่อที่เราจะ custom rtmp ส่งไปแบบ manual ส่วน Server กับ Stream Key จะได้จากตอนที่เราสร้างไลฟ์ โดยต้องรอ Facebook กับ OBS approve การเชื่อมต่อกัน ถึงจะไลฟ์ได้
จากนั้นเอาภาพเข้ามา ไปที่ Sources กด + เลือก Video Capture Device แล้วก็เลือกตัวที่เราเชื่อมต่อ แล้วกด active 1 รอบ ภาพก็มาแล้วหล่ะ และเราจะใช้ไมค์ที่ติดกับกล้อง
แล้วถ้าใครมีโลโก้ดุ๊กดิ๊กก็สามารถใส่เข้ามาได้ ไปที่ซอส เอ้ยย Source เหมือนเดิม กด + เลือก Media Source เลือกภาพโลโก้ดุ๊กดิ๊กของเราให้เรียบร้อย แล้วก็ลากวางตำแหน่งตามที่เราต้องการ
สมมุติเราจะไลฟ์ใน Facebook เนอะ ก็กดสร้างไลฟ์ในคอมไป เลือก Use Stream Key จากนั้น copy Server URL กับ Stream key ไปใส่ใน OBS
เมื่อกรอกและเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยน privacy ตอนเทสใช้เป็น only me ก่อนนะ และไปกด start streaming ที่ OBS เมื่อไลฟ์แล้ว จะมีความละเอียดที่คนดูเลือกได้สูงสุด 720p
สัญญาณดีไม่ดีให้ดูมุมขวามือ ถ้าสีเขียวคือปกติ สีส้มสีแดงก็ไม่ค่อยดีหล่ะ
ถ้าแม่ค้าออนไลน์อยากตั้งกล้องแนวตั้งหล่ะ?
ก่อนอื่นต้องไปเอากล้องไปตั้งขาตั้งกล้องรูปตัวยู ทำให้เราวางกล้องเป็นแนวตั้งได้ จากนั้นคลิกขวาที่หน้าจอ เลือก transform แล้ว ratate 90 ก็จะได้แนวตั้งมาแล้วหล่ะ
การเลือกไมค์มาใช้งาน
ให้เลือกไมค์ตามลักษณะงาน ถ้าเป็นแบบ wireless เสียงจะชัดสุดเมื่ออยู่ติดตัวเรา, ไมค์บูม ใช้ติดกับกล้อง เสียบ usb แล้วใช้งานได้เลย ส่วน wireless headphone จะเหมาะกับ streamer
ปัจจัยพื้นฐาน ให้เสียงดี
- ใช้ไมค์ให้มีคุณภาพ ให้ถูกกับงาน
- สภาพแวดล้อมดี ต้องเงียบๆ
- ระยะและทิศทาง ใช้ให้ถูกลักษณะงาน
เช่น สัมภาษณ์ จะใช้ wireless กัน
ไลฟ์ขายของออนไลน์ จะใช้ไมค์บูม เนื่องจาก มีการถอดเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ เช่น ใส่ตัวที่หนึ่งให้ดู ถ้าเอฟกันเสร็จก็ใส่ตัวถัดไปงี้
ถ่ายงานโฆษณาแบบลงนํ้าก็ต้องใช้ไมค์บูมเช่นกันเนอะ
ส่วนไมค์ condenser มะนจะรับเสียงละเอียด สภาพแวดล้อมต้องเงียบๆ การลดเสียงสะท้อนทำได้โดยปิดม่าน ปูพรม อยู่ในตู้เสื่อผ้า และวิธีอื่นๆที่สามารถดูดซับเสียงได้
การต่อ audio interface อย่างง่าย เช่นเอา zoom hd เสียบที่คอม และเปิดเครื่อง เลือกเป็น interface จากนั้นไปที่ Sources กด + เลือก audio input capture และเลือก device กด ok แล้วกดเปิดเสียงอุปกรณ์
และเราสามารถใช้ OBS เป็น visual cam ได้ เช่นใช้ใน streamyard กับ zoom ได้
Q & A
- มีหลากหลายวิธีที่ไลฟ์ให้ชัด เช่น Facebook Gaming ในแบบที่เราต้องลงแรงทำ จะได้ 1080p และ 60 frame rate เลือก category ของเพจที่มีอยู่ได่เลยว่าเป็น video game creator ตอนไลฟ์เราก็ใส่ไปว่า เรากำลัง stream game อะไร มันมีเรื่องชั่วโมงอะไรด้วย เลยแอบไปหาดูเพิ่มเติม ก็ตามนี้เนอะ
หรือจะใช้ software อื่นๆแล้วผูกกับ account เราก็ได้นะ ถ้าจดไม่ผิดก็จะเป็น streamlab แบบ premium
- ถ้าอยากไลฟ์แล้วเอา comment ของคนดูมาขึ้นหน้าจอ ขึ้นอยู่กับ software ที่ใช้ว่ามันใช้ได้เลยหรือมันมี plug-in ไหม อย่างใน OBS ก็จะใช้ plug-in ถ้าเอาแบบง่ายๆและหลายๆเพจนิยมใช้กัน อย่าง streamyard host สามารถหยิบ comment ของคนดูมาปักในไลฟ์ได้เลย แถมใช้งานง่าย ใช้บน browser ได้เลย บน macbook แนะนำตัว ecammlive เราสามารถกด comment ลากวางได้เลย
- “ถ้าเรามีกรีนสกรีนข้างหลังควรใช้เลนส์ ที่หน้าชัดหลังเบลอหรือ หน้าชัดหลังชัด” ได้ทั้งคู่ เพราะมันเขียวและตัดออกไปหมดเลย ดังนั้นมันต้องชัดทั้งหมด เพื่อให้ขอบชัด และให้ concern เรื่องไฟมากกว่า เพราะเขียวไม่เท่ากัน จะตัดยากกว่า ในงาน TMRW Creators Camp นี้สรุปแล้วใช้ไฟ 8 ดวง และจัดไฟกัน 3 ชั่วโมง
- “ถ้าเกิดไลฟ์นอกสถานที่ที่คนเยอะๆ มีเครื่องมือป้องกันสัญญาณรบกวนมั้ยครับ” คำถามยอดฮิต internet มือถือใช้ได้แรงหมด สัญญาณกวนเพราะคนแย่งใช้ ไม่มีวิธีป้องกัน แต่มีเสริมด้วยตัว backup internet ใช้ 4G bonding backup ต้องเดินเทสว่าสัญญาณเราโอเคไหม วันจริงคนเยอะกว่าตอนเราซ้อม เช่น งานไลฟ์ event ของศิลปิน คือทุกคนแย่งกันไลฟ์หมด ตัวอุปกรณ์ 4G bonding backup ให้ใส่หลายๆซิม แต่ละซิมอยู่คนละค่าย และไป set ว่าไปรวมที่ server ไหน แต่ขั้นตอนการ set ยาก มันจะมีให้เช่า แชร์เป็น hotspot หรือใช้สายแลนเข้าคอมไป
- “คุณไบรทค้าาา ไลฟ์ ยูทูป เฟสบุคพร้อมกันได้ไหมค้า” ได้แน่นอน มีวิธีอยู่ เช่น ใน OBS ได้ 1 ช่องทาง ไลฟ์และ record ลงคอม โดยเปลี่ยน record to url และใส่ key stream ของ youtube จะเป็นช่องทางสำรอง จะไม่ได้ชัดเท่า ถ้าใช้โปรแกรมเสียเงินจะไลฟ์ได้หลายช่องทางโดยกด + หลาย account สะดวก ไม่ต้องยุ่งเรื่องเทคนิค
ไลฟ์อย่างไรให้มีคนดู กับซี ฉัตรปวีณ์
กรี๊ดดดดด ดีใจ มาล้าวๆ แม่แอบมาดูด้วยเลย
ทำยังไงให้คนอยากดูเรา ซึ่งคุณซีทำมาหลายรูปแบบ เริ่มจาก website จนปัจจุบันก็มี Facebook Live ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ destruction วงการสื่อ TV แบบมันจบแล้ว เพราะเรามีช่องทางและพื้นที่สื่อเป็นของตัวเอง และใครๆก็เป็น influencer ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจับกลุ่ม target ไหนด้วย
เริ่มต้นจากดูสถิติกันก่อน ในปีที่ผ่านมามีจำนวน content ที่เป็น live streaming เพิ่มสูงถึง 99% คิดเป็นสัดส่วน 82% ของ content ทั้งหมดใน internet จำนวนเยอะเพราะไม่มีกองถ่ายอะไรมากมาย คนที่มีอุปกรณ์ดี ไลฟ์คนเดียวจบงานได้ เป็นคนที่เก่งมากๆ และใช้เวลาดูเพิ่มขึ้น 47%
trend social media platform ต่างๆ ในไทยใช้อะไรมากที่สุด ใช้อะไรไปกี่นาทีบ้าง คนไทยจะนิยมใช้ Facebook และ YouTube พอๆกัน แต่กลุ่มอายุที่ดู YouTube จะเด็กกว่า รายการใน TV ก็จะมีคู่ขนานกันไปทั้ง Facebook และ YouTube พร้อมๆกัน / มีคนนึงไลฟ์ขายพร้อมกัน 4 เครื่อง แต่ละเครื่องแยก platform กันไป เช่น เครื่องนี้ Facebook Live นะ เครื่องนี้ YouTube นะอะไรงี้ เพราะการไลฟ์พร้อมกันทุกช่องทาง อันนี้ก็น่าจะง่ายสุดสำหรับเขาหล่ะ
อันนี้ stat ของปี 2021 นะ
และช่องทางไหนบ้างที่คนเลือกขายและเลือกซื้อ
รายงานเต็มอยู่ที่นี่จ้า แอบไปค้นมา
https://www.etda.or.th/th/newsevents/pr-news/ETDA-released-IUB-2020.aspx
จากข้อมูล stat ที่มี เราจะต้องหาจังหวะที่ดีที่สุด เขาใช้แต่ละช่องทางนานขนาดไหน
ทำไมต้องอยากเรียนรู้การไลฟ์?
เพราะแต่ละคนมีอะไรที่อยากจะบอก มีอะไรที่อยากจะ ขาย เรื่องการขายก็จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ห้างเองก็ลงมาเล่นเหมือนกัน เราต้องจำช่องทางหลักๆเพื่อเริ่มต้นจับ target ได้
มาแยกดูแต่ละ platform กันเถอะ
Facebook :
- คนใช้เยอะ ก็จะมีโอกาสเจอคนได้เยอะ
- สามารถไลฟ์ผ่านคอมหรือมือถือก็ได้
- มีไลฟ์ย้อนหลัง
- ไลฟ์ร่วมกับคนอื่นได้ แต่ต้องมีโปรแกรมอื่นๆมาช่วย support ทำให้ดูมืออาชีพมากขึ้น คุณภาพเทียบเท่ากับรายการใน TV
- สร้างรายได้เป็นโมเดลแม่ยก ด้วยการส่งดาว
- เน้นการไลฟ์ข่าว ไลฟ์ขายของ ไลฟ์แบบให้ความรู้
Instagram :
- เหมาะกับการใช้เวลาไลฟ์ไม่นาน เพราะตัว platform live ได้ 60 นาที
- ตัวไลฟ์ย้อนหลังอยู่แค่ 24 ชั่วโมง
- ใส่ filter ตอนไลฟ์ได้
- ระหว่างไลฟ์ก็แทรกรูปไปได้ ทำให้ดูเพลิน แล้วก็อยากซื้อของ
- ไลฟ์กับเพื่อนได้สูงสุด 4 คน เหมือนโทรหากัน คนดูก็เหมือนฟังเขาคุยกัน (มีความจอยลดา ที่อ่านแชทคนคุยกันอ่ะ) ดาราใช้กันเยอะ ทำให้คนรู้สึกว่าให้ความสนิทสนม และใกล้ชิดเขามากขึ้น
- เน้นไลฟ์สไตล์ มี Q & A
TikTok :
- ตลาดขายศักยภาพมนุษย์, show case ความเป็นเอเชีย
- เป็น content video สั้นประกอบเพลง และเพลงลิขสิทธิ์มีเยอะมาก ทำให้ดูสนุก ดูง่ายๆ เด็กๆชอบ คนขี้เกียจดูอะไรยาวๆ ไลฟ์เพื่อเป็นกระแส
- ไลฟ์ได้เมื่อมีผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไปเท่านั้น จำนวน follower หาไม่ยากเท่า platform อื่น แต่ต้องชัด เช่นเล่น chanllenge เพลงต่างๆ ขายขำ hobbie โดยช่องใหญ่ๆจะ หานักแสดงผ่านช่องทาง online แทน
YouTube :
- อีกนิดนึงก็เป็น TV เนื่องจากคุณภาพของ video ดีมาก
- คนตั้งใจมาดู video ยาวๆ
- รับชมได้ มีใน TV ทุกเครื่อง
- มีไลฟ์ย้อนหลัง สามารถแชร์ไปยังช่องทางอื่นๆได้
- ไลฟ์ได้เมื่อมีผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป เหมือน TikTok
- ไลฟ์ร่วมกับคนอื่นได้ แต่ต้องมีโปรแกรมอื่นๆมาช่วย support เหมือน Facebook การมีทีมงานมาช่วยจะลดงานที่เราต้องทำ ให้เรา focus ที่งานตรงหน้าที่จะนำเสนอ content
- เน้น live ที่เป็นความบันเทิง เช่น แคสเกมส์ ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับคนที่เล่นอยู่ และสนุก โดยที่เราไม่ต้องเล่นเกมส์เอง
ดังนั้นเราควรทำความเข้าใจในแต่ละ platform ด้วยนะ
Big Trends
กรณีศึกษาจากเมืองจีน ประเทศผู้นำเรื่องการไลฟ์ การไลฟ์เป็นการแก้ปัญหาเรื่องการขายของ ไลฟ์มันทุกอย่างแบบสากกะเบือยันเรือรบ ไลฟ์ได้สารพัดเรื่อง ขายได้ทุกอย่าง ทำให้เขาพัฒนาอุปกรณ์ออกมาเพื่อตอบโจทย์ เช่น มี ringlight ในมือถือ เขาขายเร็ว ขายเก่ง ขยันขาย เกษตรกรไม่ต้องขายผ่านพ่อค้าคนกลาง
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องคิดใหม่หมดทุกอย่าง เราต้องตั้งสมมุติฐานให้กับทุกเรื่อง
อันนี้เป็นร้านของ Ailibaba ชื่อว่า Taostyle ในร้านจะนำเสื้อผเา จากร้านเสื้อผ้าออนไลน์ที่ขายดี มาอยู่ในหน้าร้านนี้ โดยจะเลือกให้ตรงกับ lifestyle คนในย่านนี้ด้วย
คิดว่าน่าจะเกิดขึ้นในไทยแน่นอน ซึ่งเคสแบบนี้ retail ก็ควรจะดูเนอะ
อันนี้เป็นคลิปที่ YouTube suggestion มา ของเกาหลีใต้
คนที่ดูอยู่อาจจะมีร้านค้า เราสามารถเรียนรู้ทักษะการเป็น creator เป็นจุดเริ่มต้น ต่อยอดไปทำธุรกิจได้ เช่น Bearbug จากช่องยูทูปมาเป็นร้านชานมไข่มุก มีขนมขายขึ้น 7-eleven ดังนั้นจะต้องมีความบากหมั่น อดทน เพื่อยืนระยะยาวได้
China's Lipstick King หลีเจี่ยฉี เป็นชายหนุ่มคนนึง ที่ไลฟ์ขายลิปสติกได้มากที่สุดในจีน 30 วินาที! ในวันคนโสดขายได้ 15,000 แท่งใน 5 นาที! เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
และมี content แจ็ค หม่าขายลิปสติกแข่งกับเขา ในเวลาเท่ากันนั้น แจ็คหม่าขายได้ 10 แท่ง ส่วนหลีเจี่ยฉีขายได้ 1000 แท่ง
เทคนิคการขาย แนะนำสั้นๆ กระชับ น่าเชื่อถือ รีวิวแบบตรงไปตรงมา มีความจริงใจกับคนดู สวยก็บอกว่าสวย ไม่สวยก็บอกว่าไม่สวย มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน มีคำติดตาม ประมาณว่า OMG ซื้อเลยๆ
เราไปหาเพิ่มเติมมาเนอะ
Viya can sell anything อาจจะแปลได้ว่า Viya ขายทุกอย่าง ฮ่าๆ แต่เธอขายทุกอย่างบนโลกใบนี้ เธอสามารถสร้างยอดขาย แตะ 1 หมื่นล้าน ในวันเดียว! นอกจากเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อาหาร เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ บ้าน รถแล้ว จรวดเธอก็ขายมาแล้วนะเออ โดยจรวดนี้มีมูลค่ากว่า 40 ล้านหยวนเลยทีเดียว คิดเป็น 175 ล้านบาทไทยเอง กรุบๆ
ใน Bloomberg บทความยาวมาก เห็นภาพเลยว่าเขาไลฟ์ขายอะไรบ้างนะ
จุดเด่นของเธอคือเข้าใจคนอื่น และสนองความต้องการของเขาได้ เพราะมีสินค้าเกือบทุกอย่างที่เขาต้องการ เวลาไลฟ์เธอจะแต่งชุดอยู่บ้านสบายๆ ให้เหมือนกับลูกค้าที่นั่งดูอยู่ที่บ้านจริงๆ
ในช่วงโควิด 19 ที่คนอื่นๆขายของไม่ค่อยได้ แต่เธอมีคนเข้ามาชมไลฟ์มากถึง 2 เท่าด้วยหล่ะ
สุดยอดนัก Live มือทอง ประจำประเทศไทย
ปิดหน้ายังไงก็รู้ว่าเป็นใคร เขาทั้งคู่มีเทคนิคการขายที่ดี
- พิมรี่พายขายทุกอย่าง ยอดคนดูกว่า 5 แสนคน และทำรายได้สูงสุดวันละ 50 ล้านบาท บางทีไลฟ์ขายของยาว 8 ชั่วโมงต่อวันจ้า (อันนี้เราแอบนอกเรื่อง มีคนแซว จากแม่ค้า ไปเป็นนักร้อง แต่มีนักร้องคนนึง ตอนนี้เป็นแม่ค้าเต็มตัว ไม่กลับไปร้องเพลงหล่ะ)
- บังฮาซัน แห่งร้าน ฮาซัน อาหารทะเลตากแห้ง จ.สตูล ตอนนี้กลายเป็น influencer ประจำจังหวัดสตูล เพราะมีหลายๆคนจังหวัดฝากเขาขายของหล่ะ เป็นคนไลฟ์ขายของเก่ง มีความครีเอท มีความเป็นตัวของตัวเองที่น่าจับตามอง ที่เราจำได้ก็มีลูกคู่เยอะๆ แม่ฉันจะต้องได้กินกุ้ง แฮร่
ถือว่าการไลฟ์ขายของต่างๆเป็นตัวกำหนด GDP ประเทศไทย พูดทำให้คนอยากลองซื้อ
แล้วช่อง Ceemeagain ไลฟ์อะไรบ้างนะ?
ใช้ไลฟ์หลายๆรูปแบบ ไลฟ์แบบนักข่าวที่รายงานข่าวสารที่เกิดขึ้น จนไปถึงสื่อสารพูดคุยกับคนดู
หัวใจสำคัญของการไลฟ์ก็คือ การได้พูดคุยกับคนดูแบบ real-time นั่นเอง เช่น
- งาน WWDC
- live จับของใหม่ ลองของใหม่ให้คนดูเห็น คนดูจะเป็นผู้กำกับว่าให้ลองตรงนี้หน่อย ตรงโน้นหน่อยนะ และลุ้นไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะต้องทำ content video หรือต่างๆให้เสร็จก่อนนะ
- live พูดคุยกับ start-up matketplace ของ NIA โดยใช้กล้อง DSLR จัดแสงจัดไฟ มีแขกรับเชิญ 4 คน เราจะต้องตีโจทย์ก่อนว่า ทำไมเขาจึงให้เรา live? และเราช่วยเขาขายของได้อย่างไร? ตัวนี้คือเป็นการขาย platform หรือบริการของ startup ตอนแรกจะมีความมึนๆหน่อย ก็เลยมีการ balance เวลา และทำคลิปแนะนำของแต่ละบริษัทเลยว่าทำอะไรบ้าง เพื่อให้คนดูทำความเข้าใจก่อน
- live เสียงต้องชัด ภาพไม่ชัดไม่เป็นไร เช่น ตอนรับ iPhone12 วันแรกแบบ drive-thru เนื่องจากสถานการณ์โควิด
ทำอย่างไรให้คนดู? ให้คิดว่า ทำธรรมดา โลกไม่จำ เราต้องทำให้ปัง
How to Live? เปลี่ยนไลฟ์ธรรมดาให้เป็น content สุดปัง
เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง ทำออกมาซํ้าๆ เยอะๆ ตาม 5W 1H เดี๋ยวมีอธิบายข้างล่าง
คอนเทนต์ Live แบบไหนที่คนชอบดู?
- Lifestyle : เน้นความสนุก, ให้ความบันเทิงกับคนดู, ไลฟ์โชว์ lifestyle, ถามตอบ Q & A อย่างดาราก็ชอบไลฟ์ลักษณะนี้กันแหละ
- Event : กิจกรรมร่วมสนุก, เล่นเกมส์, ให้คนดูมีส่วนร่วมในการไลฟ์, แจกของรางวัลต่างๆ
- Shopping : ไลฟ์ขายของ โดยเป็นประเภทที่มีความนิยมมากที่สุด ตามแต่ยุคสมัยนิดนึง, support shopping online เพราะสะดวก สนุก มีดีลพิเศษ
- News : ข่าว เราต้องมีความต่างจากช่องอื่นๆ เช่น ช่อง Ceemeagain จะเน้นนำเสนอข่าว innovation, ข่าวงานเปิดตัวต่างๆก็อยู่ในนี้เช่นกัน, แปลสดที่ต้องทำและนำเสนอทันที
- Education : ไลฟ์สอนหนังสือ, ไลฟ์ที่ให้ความรู้ มีสาระ ไลฟ์เทศน์ยังมีเลยจ้า
- Game: แคสเกมส์
ถอดสูตรสำเร็จ Live อย่างไรให้ปัง
- เป็นกันเองกับผู้ชม ไม่หยาบจนคนตกใจ ซึ่งก็แล้วแต่ตัวตนของคนนั้นๆอีกทีนึง
- อย่าสักแต่ขายอย่างเดียว ต้องมีความบันเทิงด้วย ร้านนี้ขายแพงกว่าทำไมคนถึงซื้อ คนซื้อเพราะอะไร
- เป็นตัวของตัวเอง ต้องใช้จิตตะสูงมาก จึงจะหาสิ่งนี้ให้เจอ
- เข้าถึงได้ รู้สึกเรามีตัวตน first come remain เรื่องนี้เขาจะนึกถึงเราเป็นคนแรก ทำให้ engagement ดีด้วย
ข้อดีของการไลฟ์ : ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เนื่องจากมีคนแย่งซื้อสินค้านี้กับคนอื่นๆที่กำลังดูไลฟ์อยู่นั่นเอง เราสามารถขายของที่คนซื้อไม่รู้ว่าตัวเองอยากได้ด้วยนะ
การเปลี่ยนไลฟ์ธรรมดาให้เป็น content สุดปัง คิดง่าย แต่ทำยาก ดังนั้นเราต้องลองทำดู ลองคิดง่ายและ develop มันออกมา set ปัจจัยให้น้อยที่สุด
สรุปวิธีการไลฟ์ยังไงให้ปัง
- ศึกษาสิ่งที่เราจะพูดให้มั่นใจ รู้ให้จริง
- ถ้าเรายังมีประสบการณ์ไม่เยอะ อย่าด้นสด ให้ list แต่ละหัวข้อที่เราจะพูดเอาไว้
- กำหนดเวลาในพูดแต่ละหัวข้อ
- ศึกษาช่วงเวลาที่ดีในการไลฟ์ ในแต่ละ platform
- แจ้งข้อมูลการไลฟ์กับคนดูล่วงหน้า เหมือนเป็นการโปรโมท event นั่นแหละ
- อุปกรณ์และเครื่องมือเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอ ใช้ให้เคยชิน อุปกรณ์หากินอย่าเปลี่ยนบ่อยมาก
- ภาพดี มุมดี แสงดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
- คุยกับคนดูบ้าง
- เป็นตัวของตัวเอง
- เซ็ก feedback ทุกครั้งหลังจบไลฟ์
สถานการณ์ กาลเทศะ วิจารณญาณ = จรรยาบรรณสื่อ
จรรยาบรรณสื่อ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะ influencer ก็เหมือนเป็นสื่อ 1 content ของเราส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขา ให้เปลี่ยนแปลงไปได้ เราจะต้องรับผิดชอบในการสื่อสารของเรา
Tips ก่อนเราไลฟ์ต้องคิดถึงอะไรบ้าง?
- 5W 1H : Who What Where When Why How -> เราจะต้องตีโจทย์ให้แตก และเตรียมตัวให้มาก
- Target Time Product Content Gimmick
เนื่องจากใกล้หมดเวลา เลยไม่ได้ขยายความต่อเลย แต่ก็จะเห็นภาพคร่าวๆบ้างหล่ะ
ลองทำรูปสรุปดีกว่า
Q & A
- ไม่เคยไลฟ์เลย ทำยังไงให้ไม่เขินกล้อง และทำยังไงไม่ให้หมดกำลังใจถ้ามีคนดูน้อย : ให้คิดว่าพูดกับคนสนิท ต้องไม่เขิน ตอนทำแรกๆอาจจะอายตัวเอง เราจะต้องทำให้ชิน คนดูน้อยไม่ต้องไปกังวล ถือว่าเราซ้อมไปก่อน ใกล้ชิดกับคนดู เวลาผ่านไปคนจะมาดูเรามากขึ้น
- การจัดการเรื่องความตื่นเต้น : พยายามหายใจเข้าออกลึกๆ ให้คิดว่าเหมือนเราคุยกับคนที่สนิท เป็นเรื่องของบุคลิกภาพ อย่าไปกังวล ต้องรู้ว่าตัวเองพอใจแบบไหน ทำจนคุ้นชินและมั่นใจ ถ้าเปิดหน้าแล้วกลัวไปลอง clubhouse ดูก่อน เพื่อให้เรา focus สิ่งที่เราจะพูดก่อน
- เตรียมตัวในการทำ content อย่างไร : ในปีแรกแปลข่าวจากต่างประเทศและใส่ทัศนคติของตัวเองลงไป ตอนนี้อยู่ที่การจับประเด็น เช่น คนที่จบคณะวิศวะมา review ของได้ลึกกว่า เพราะรู้เรื่อง technical ที่ลึกกว่า และ pick-up กลุ่มที่ตัวเองสนใจ เช่น กลุ่ม developer, คนที่อยากเป็น developer, ชาวบ้านธรรมดาที่สนใจเรื่องเทค (อันนี้เราเติมเอง) เรื่องที่เราสื่อสารตรงกับกลุ่ม target ที่เราต้องการหรือไม่
- เรื่องลิขสิทธิ์ภาพ : ปัจจุบันซื้อที่ดังๆ ซื้อ license หลักหมื่นต่อเดือน เซ็นสัญญาซื้อรายปี, ต้องดูว่าของเราทำ content มีองค์ประกอบอะไรบ้าง เช่น ถ่ายรูปเก็บ stock เอาไว้เยอะๆ, วาดรูปเผื่อไว้, บางที่ใช้ font เน้นข้อความอย่างเดียวก็ได้นะ หลังๆทำแล้วมีทีมตากล้อง ตัดต่อ ก็ช่วยได้นะ (ก่อนหน้านี้บางคนตัดจาก YouTube มาใส่ แต่ตอนนี้คนใส่ใจเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้น เลยซื้อ license เป็นเรื่องเป็นราว)
- "คอนเทนต์ที่ดี ควรใช้ระยะเวลาในไลฟ์กี่นาที และคาแรกเตอร์แบบไหนบ้างที่จะดึงดูดผู้ชมได้ค่ะ" ถ้าดึงดูดอาจจะเป็นตลก, ทำ content ที่ touch คน และ content ที่ดี ถ้าควรจบเร็ว ก็ให้รีบจบไปเลย ไม่งั้นคนจะรำคาญ แล้วจะต้อง balance เวลาด้วย / อาจจะหาคนมานั่งคุยด้วย นั่งแยกฝั่งกันก็ได้ / บอกคนดูว่าเราจะไลฟ์วันไหน เวลาไหน ใช้เวลาเท่าไหร่
- “เวลา LIVE นอกสถานที่ แล้วติดคนรอบๆ มันต้องระวัง หรือมีการขอ consent อะไรไหมคะ หรือสามารถทำได้เลยค้า” เราต้องระวังในเรื่อง sensitive เช่น แอลกอฮอล ถ้ามีความเอ๊ะอ๊ะเราก็ต้องระวังด้วย อย่าทำเลยจะดีกว่า ถ้าถ่ายติด อยู่ที่เจตนา ว่าถ้าละเมิดความเป็นส่วนตัว ทำให้เขาเกิดความอับอาย อันนี้ไม่ดี แต่ถ้าเป็นงาน event เป็นงานเปิดตัว ที่เขาก็อยากให้ถ่าย แล้วก็แต่งตัวมาให้ถ่าย อยู่ที่สถานที่ด้วย ถ้าพื้นที่ปิดควรติดต่อหรือบอกเขาหน่อย เพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานที่ด้วย ถ้าเขาไม่ให้ถ่ายจริงๆก็อย่าไปละเมิดเขา
อันนี้เราเล่าแยกไว้ตรงนี้ดีกว่า คุณซีเล่าว่า ตอนนั้นที่ Apple Store เปิดที่แรกในไทย มีโอกาสแบบปุ๊ปปั้ปรับโชค ได้สัมภาษณ์กับผู้บริหารหญิงฝั่ง Apple Retail ชื่อว่า Angela Ahrendts ในทุกๆวันจะเตรียมของไปพร้อมและเผื่อไว้ด้วยเลย ทั้งขาตั้ง, กล้อง DSLR, wireless, Go Pro, มือถือ วันนั้นบังเอิญ wireless ดับ ดีที่มีมือถือมาช่วยชีวิตไว้
Workshop
โจทย์คือ "3 .. 2 .. 1 .. Action! ทำคลิปเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ TMRW Creators Camp" ความยาวคลิป 1-2 นาที เราเลยแบบนึกอะไรไม่ออก เลยเปิด Notion ที่เราจดไว้มาเล่าแทน ทีนี้อยู่ในซูม เราจะยังไงดีนะ เลยถามทีมงานว่าไม่ใส่หน้าเราได้ไหม เพราะเราจะ record จอ ทีมงานบอกว่าได้ ก็เลยอัดคลิปหน้าจอพร้อมพูดไปหลายที แต่พอมาตัดใน iMovie แล้วมันใส่เสียงเราเพิ่มไม่ได้ เลยส่งแบบที่พูดแล้วไม่ตัดไป ฮือออ
และทุกๆคนที่ได้ถูกหยิบขึ้นมาคือทำออกมาดีมาก ดีกว่าเราเยอะ ฮืออออออ
เอาเป็นว่า เราจะมี content สรุป wrap-up งานทั้งหมด เมื่อได้ไปอยู่ใน a day เล่มพิเศษเดือนกรกฏาคมก่อนแล้วกันเนอะ คิดว่าน่าจะลองเล่นอะไรสนุกๆมากขึ้นแบบมีเวลาคิดที่ไม่กดดันอะเนอะ
ในห้อง break-out room ของเรามีคุณซีให้คนในห้องได้นั่งพูดคุยสอบถาม ฟังแล้วก็สนุกดีแหละ พอได้คนถามในประเด็นที่ค่อนข้าง relate กับเรา ทำให้เราได้คิดอะไรมากขึ้นในการทำ content ของเพจเราเอง
คืองี้ คนที่เก่งเทคแบบลึกๆ ก็ไม่ได้สื่อสารได้เก่งเหมือนกับคนทั่วไปที่สื่อสารให้คนเข้าใจ แต่ไม่ได้เก่งเทคแบบลึกๆ (น้อยคนที่จพเก่งเทคแบบลึกๆ และอธิบายภาษาชาวบ้านให้เข้าใจ แบบนายอาร์มง่ะ ของพี่หนูเนยบางบล็อกเขียน geek alert เลย ดักไว้ก่อน ถ้าในสายเดียวกันก็ Android GDE หนึ่งเดียวในไทยแบบพี่เอกนั่นแหละ คนทั่วไปจะเห็นเขาใน droidsans เนอะ)
ประเด็นอันนี้มีคนถามคุณซีเลยจดไว้ ถ้าใช้เพลงลิขสิทธิ์ห้ามใส่เกิน 7 วิ และ Tiktok เขาจะซื้อลิขสิทธิ์มาใส่ในแอพเยอะมากกกก แต่ความยาวสูงสุดที่เราสังเกตคือ 1 นาที ถ้าเพลงยาวกว่านั้นคือ user เอามาใส่ในคลิปเอง (แต่บางทีมันฉลาด พวกเพลง challenge สั้นๆ มัน relate ไปหาเพลงต้นฉบับได้อ่ะ คิดดูวววว~~)
Q & A รวม
แม่เรา รู้แหละว่าเราติดตามคุณซีมานานมากกกแล้ว เลยบอกให้เปิดกล้องคุยสิ โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อย ก็เลยทวนคำถามในใจ และใช้ความกล้า ในการเปิดกล้องถามจ้า ตื่นเต้นมากๆเลย
เราจำคำถามที่เราถามไม่ได้ทั้งหมด แต่หยิบจากเหตุการณ์จริงที่ว่า ตอนที่ขึ้นไปเป็น speaker พูด เราว่าเราก็ซ้อมเยอะแล้วนะ แต่บางทีมีแบบแว่บนึกไม่ออกว่าต้องพูดอะไรต่อนะ เลยกลายเป็น dead air ไป (งาน Android Bangkok Conference 2019 คือ dead air บ่อยมาก พยายามพูด เอ่ออ ภาษาอังกฤษแบบด้นสด แล้วแต่งประโยคไม่ทัน) ก็เลยถามพี่ๆว่าเราจะจัดการตรงนี้ยังไงดี
ถามเสร็จเขินมาก
สรุปคำตอบ อย่าไปกังวลกับ dead air ที่เกิดขึ้น ให้มองว่าความเงียบเป็นเสียงอย่างหนึ่ง บางครั้งการที่ dead air ก็เป็นการเรียกร้องความสนใจคนฟังได้อย่างนึง หรือมันอาจจะมาในจังหวะที่ถูกที่ควรก็ได้ เช่น นั่งคิดตอน wrap-up ทั้งหมด ดังนั้นให้เรา focus กับเรื่องที่เราจะเล่าหรือสิ่งที่เราจะสื่อสารให้มากที่สุด พูดให้เป็นธรรมชาติ อาจจะเริ่มจาก clubhouse ก่อนก็ได้ และให้เน้นจุดเด่นของเรา มากกว่าจุดด้อยที่มีอยู่
เราก็ตั้งใจฟังไปด้วย จดไปด้วย กันลืม ได้กำลังใจจากพี่ๆทุกคนกองโตเลย
ปล. ขอบคุณแรงบันดาลใจจากหลายๆคนในอาทิตย์ก่อนหน้าที่เป็น FC speaker แล้วเปิดไมค์เปิดกล้องถาม คือมันก็วันสุดท้ายที่ได้เรียนแล้ว ถ้าไม่ทำก็ไม่มีโอกาสแล้วหล่ะนะ
อีก ปล. จริงๆเราก็ก้าวข้ามผ่านจุดด้อยมานานพอควร ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะเราสามารถทำงานกับทีมได้เป็นอย่างดี โดยไม่ได้ติดปัญหานั้น ถ้าจุดด้อยเป็นปัญหาจริง คงไม่มีงานที่เป็น speaker ต่อจากงานแรกแน่ๆอ่ะ ปีที่แล้วมีแต่ออกไปเป็นแขกรับเชิญใน podcast นะ สรุปเรียกเราไปเม้าใน podcast หรือ clubhouse ก็ได้นะ
- “อยากถามพี่ซีครับว่า มีวิธีฝึกใช้ภาษากายเวลาพูดยังไงให้เป็นธรรมชาติ และสามารถพัฒนาตัวเองไปได้เรื่อยๆครับ ^^” ระวังอย่าให้ออกเยอะเกินไป จริงๆมองภาษากายเป็น subtitle อย่างนึง เป็นภาษาสากล แต่บางอย่างไม่ใช่ แล้วแต่บริบทในแต่ละประเทศด้วย ภาษากายที่ควรจะฝึก คือฝึกไม่ให้อาย ให้เป็นธรรมชาติให้มากที่สุด ลดการใช้มือให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ และให้ระวังภาษากายที่เป็น negative ด้วย
- “อยากทราบเทคนิคก็ใช้พลังงานในการไลฟ์ให้ได้นานๆ (ส่วนตัวพูดต่อเนื่องสิบนาทีก็หมดแรงครับ)” ประสบการณ์ที่คุณไบร์ททำงานให้ลูกค้าท่านนึง เขาไลฟ์ขายของ 4 ชั่วโมงเลยนะ สรุปเลยคือ ยิ่งยืนนาน ยิ่งขายของได้ และมีการ interact กับลูกค้าตลอดเวลา เราต้องสนุกกับเราก่อน และคุณซีมองว่า ยาวได้ ขายของออก คล้ายๆเรียลลิตี้หลิงปิง (อันนี้เราลั่นเลย555) ประมาณว่าเรื่องความยาวไม่ใช่ประเด็น ตราบใดที่ยังมีคนดูเราอยู่งี้
วันนี้ไม่มี product session เนอะ ก็เลยเป็น agenda ของวัน Winner Announcement Day ในวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายนนั่นเอง เวลาบ่ายโมงถึงหกโมงเย็นเลย และเป็นงานที่ไลฟ์ให้คนนอกดูได้ด้วยผ่าน Facebook Live และ Youtube Live ทุกคนจะได้มาเรียนแบบเราแล้ว เย้ๆ ก็มาลุ้นกันว่าใครจะเป็น 1 ใน 10 คนสุดท้ายเนอะ
และแน่นอนคนที่ส่ง assignment ของค่ายครบ 2 ชิ้น จะได้ certificate พร้อมทั้งได้อยู่ใน a day เดือนกรกฎาคมด้วยจ้า อันนี้เราก็ลุ้นเหมือนกันว่าเราจะได้อยู่แบบนั้นเป็นประมาณไหนเนอะ ก็ดีใจมากๆเลย เพราะนิตยสารเล่มแรกที่อ่านก็ a day นั่นแหละ แล้วก็ไม่คิดไม่ฝันว่าวันนึงจะมีโอกาสได้อยู่ในนั้นบ้าง ฮือออออออ
สุดท้าย ก็ขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งทาง TMRW ที่เป็น sponser ใหญ่ใจดี ที่ทำให้ค่ายนี้เกิดขึ้น ขอบคุณทาง Rainmaker ที่ดูแลพวกเรามาเป็นอย่างดี ขอบคุณ speaker ทุกท่านที่มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ และขอบคุณ content creator ทุกท่านที่มาร่วมค่ายกัน อาจจะยังไม่ได้ทำความรู้จักกันมากมาย เนื่องจากมันเป็นงาน visual ในสถานการณ์โควิดเนอะ เลยจะแห้งๆไปนิดนึง เพราะไม่มี networking จริงจัง แต่ก็แอบเห็นหลายๆคนก็ร่วมงาน colab กันบ้างแล้วเนอะ ทำให้เรารู้จักหลายๆคนมากขึ้น และบางคนเราก็ตามเพจ ตามดู content เขาแบบเงียบๆด้วยนะ 55555555
ของแถม เอามาแปะบล็อก ในเมื่อคุณไบร์ทบอกว่า อะไรที่เขารีวิวว่าดี ก็หยิบมาใช้ได้เลย นึกถึงบล็อกนี้ทันที ผลที่ได้คือเป็นการไลฟ์ที่มี production ดี มีคุณภาพนั่นเอง
และเราให้เจ้าตัวป้ายยาเพิ่มจ้า ได้ไฟข้างหลังที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้
https://shopee.co.th/product/84264533/3749555416
แล้วเจ้าตัวไม่รู้หรอกว่า เขาได้ช่วยเรามี content ที่มี reference ดีๆให้คนอ่าน 1 กรุบ
ปล. เดี๋ยวน่าจะมีบล็อกวันสุดท้าย กับ wrap-up งานทั้งหมด คิดว่าน่าจะมีปีถัดไปแน่นอน
สุดท้ายนี้ ก็ฝากเพจ MikkiPastel ด้วย เป็นเพจ programming ไม่ใช่เพจ cryptocurrency แต่บังเอิญโดนป้ายยามาแล้วเอาไปทำ content เฉยๆ แล้วก็ไม่ใช่เพจสรุป การสรุปงานต่างๆเป็นส่วนนึงใน content ที่เราทำเฉยๆ แต่คนในสายงาน developer จะจดจำเรา ในฐาแนะ เอ้ยย ฐานะ Android Developer ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง เรียบร้อย ม่ายสู้วคนเท่าหร่ายย บางทีชอบทำ content ที่คนไม่ค่อยเขียนบล็อกกันในเชิง developer หลายๆคนชอบอ่าน blog สรุปงาน event, meetup, conference ต่างๆเพราะมันละเอียดดี คนไม่ไปงานก็อ่านได้ แล้วก็มีงานอดิเรก นอกจากเขียนแอพแอนดรอยด์แล้ว ยังทำแชทบอทปีละครั้ง (เดี๋ยวจะกลับไปทำแล้วจ้า ทีมเรียกร้องมา) เขียนโปรแกรมเล่น ตอนนี้ก็สูดอากาศบนดอยเล่นๆแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่รอเวลามันกลับมาผงาดอีกครั้งนึง เขียนขายของยาวไปไหมนะ 555
download แอพอ่านบล็อกใหม่ของเราได้ที่นี่
ติดตามข่าวสารและบทความใหม่ๆได้ที่
ช่องทางใหม่ใน Twiter จ้า
และ YouTube ช่องใหม่จ้า