มางาน Notion Meetup Thailand 2023 First Love with Notion ที่จัดครั้งแรกในไทย

งาน Notion Meetup Thailand 2023 ครั้งแรกในไทย รอบนี้ชื่อธีมว่า First Love with Notion นะ

ซึ่งทางเราบังเอิญไถฟีด Facebook ไปเจอว่าทาง Notion Thailand จัดงาน meetup นี้ครั้งแรกในไทย ก็เลยกดบัตรไปเลย โดยไม่คิดอะไรมาก 555555555

Notion Meetup Thailand 2023 · Luma

Schedule 13:30 - 14:00 ⇒ Registration14:00 - 14:15 ⇒ Introduction 14:15 - 14:45 ⇒ Pize “New year, new you with notion”14:45 - 15:15 ⇒ Fifa “Visualize with notion and notion on ipad”15:15...

งาน Notion Meetup Thailand ครั้งนี้ จัดขึ้นในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 เวลา 13:30-17:30 ที่ Clazy Cafe ชั้น 3 ของ The Season Mall นั่นเอง

งานนี้ก็มีสายเทคไปกันหลายคน แต่ไม่ได้ทักทายอะไรมากมาย ช่วง networking ก็กลับไปประชุมของ Stocker DAO ต่อ (น้อง ๆ นัดไว้หกโมงครึ่ง เกือบไม่ทัน 555) อีกทั้งแบกร่างที่แหลกจากการเรียนนวดไทย 300% มาด้วย 555

ไม่ให้เป็นการเสียนาฬิกา เอ้ย เวลา มาเริ่มกันเลยดีกว่าฮับ

Introduction

เปิดตัว MC ของงาน ซึ่งเขาเองรู้จักก่อนวันงานจริงเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เป็นงานที่คนที่ไม่รู้จัก Notion ได้รู้จัก และเข้าใจ Notion มากขึ้น

และงานนี้ sponsor โดยทาง Notion ด้วยนะ

มีการเปิด video ของ CM (Community Manager เราเรียกสั้น ๆ ตามวงการคริปโตแหละ) ของทาง Notion เป็นการเปิดงาน

Pize “New year, new you with notion”

Notion ทำอะไรได้บ้าง และความประทับใจที่มีต่อ Notion

อันนี้ช่องทางในการติดตามของ speaker นอกจากจะเป็น content creator แล้ว ยังทำธุรกิจส่วนตัวด้วยนะ

"ใครมี new year resolution 2023 แล้วบ้าง?" คำถามของ speaker ที่บางคนอาจจะตอบว่ามีแล้ว บางคนอาจจะไม่มี แล้วถ้าอยากทำ เราจะมีวิธีการอย่างไร? และเอา Notion เข้ามาช่วยได้อย่างไร?

วิธีการทำ new year resolution

1. เขียนออกมาให้ชัดเจน: เอาสิ่งที่คิดอยู่ในหัวออกมาจดเพื่อกันลืม
2. เขียนให้รู้ว่าจะเริ่มยังไง: เช่น จะเริ่มออกกำลังกาย เราจะเขียนลอย ๆ แบบนี้ไม่ได้ เราจะต้องแปะเวลาและ action ให้เห็นภาพนั้นชัดเจน ตัวอย่าง ออกไปวิ่งที่สนาม 7 โมงเช้า
3. ลงมือทำ + Feedback: สิ่งที่เราทำไป ดีหรือไม่ดียังไงบ้าง

หนังสืออ้างอิง คือ The 7 Habits of Highly Effective People

ส่วน reference การออกแบบ Notion คือคุณ August Bradley นั่นเอง

4 Generations of Management Tools

1. Task: เป็นการใช้ระบบว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ปัญหาคือ แล้วเราควรทำอันไหนก่อน ส่วนใหญ่จะเลือกทำอันที่อยากทำก่อน 555 ทำให้มันไม่ค่อย productive เท่าที่ควร
2. Priority: ใส่ความเร่งด่วนเข้าไป ทำให้เราตัดสินใจทำอันที่ด่วนที่สุดก่อน
3. Schedule: มีเวลาแปะไว้ว่า อันนี้ทำตอนไหน ดูภาพรวมได้ว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง มันจะเกิดคำถามในใจเล็ก ๆ ว่า เอ๊ะเราทำอะไรอยู่นะ เราทำสิ่งนี้เพื่อใครกัน มันไม่ค่อยมี meaning และเกิด burn-out ขึ้นได้
4. Value: ใส่คุณค่าเข้าไปในปฏิทิน ว่าของอันไหนตอบคุณค่าในชีวิตของเรา ทำให้เราสามารถวางแผนชีวิต ได้ new year resolution ที่สามารถปรับให้เข้ากับช่วงเวลาได้มากขึ้น โดยไม่ต้องคิดใหม่ซํ้า ๆ ในทุก ๆ ปี

ตัวอย่าง

อันนี้เป็นตัว Notion template สำหรับทำ new year resolution โดยยึดถือจาก value

• ให้เราเขียนทุกอย่าง เท่าที่ทำได้ ทำให้เราได้เป้าหมาย ว่าปีนี้จะทำอะไร

• task เป็น database ที่มี task เยอะ และใส่ value ว่าสิ่งนี้ตอบโจทย์ด้านไหนของชีวิต

• ข้างในสามารถ link กันได้ และสามารถเลื่อนแผนงานที่ไม่เสร็จได้

• reflect ทบทวนตัวเอง ใช้ Notion เพื่อกรองดู data ย้อนหลังได้ ว่าเราพลาดเรื่องอะไร ทำให้เราสามารถวางแผนต่อได้ว่า เราจะต้องปรับปรุงเรื่องไหนต่อ และถ้าเป็นไปได้ ให้ reflect หลัง activity นั้นเสร็จ หรือจบวันก่อนเข้านอน
• กราฟ milestone

อันนี้สไลด์ของ speaker จ้า

Fifa “Visualize with notion and notion on ipad”

Notion ใช้ในไหนได้บ้าง session นี้จะมาบอกการใช้ Notion ใน iPad กัน โดยคุณฟีฟ่า เจ้าของเพจ Stationery on the table - คลับของคนรักเครื่องเขียน นั่นเอง เป็นการเจอตัวจริงของเขาครั้งแรกเลย

วันนี้มาพร้อม 3 main idea หลัก

Notion on iPad

จริง ๆ Notion ก็เป็นแอพพลิเคชั่นนึง ที่สามารถใช้ได้ทั้งบน browser, โปรแกรมบนคอม รวมไปถึงบน Android และ บน iOS device ไม่ว่าจะเป็น iPhone และ iPad เนอะ

จุดเด่นของ Notion บน iPad

• มี task bar action ต่าง ๆ
• เราสามารถเปิดโหมด Scribble เพื่อใช้ Apple Pencil เขียนได้
• เพิ่มหน้าเว็บที่เราอ่านไปเก็บบน Notion ได้ โดยใช้เจ้า Web Clipper ได้เช่นกัน
• เพิ่ม widget บน iPad ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
• ใช้ Shortcuts ในการเพิ่ม note ใหม่ได้
• เราสามารถใช้ quick access ในการ link to page ในหน้าที่เราใช้บ่อย ๆ ได้นะ

Take note on iPad

แน่นอนว่า Notion ใช้กับแอพจดยอดนิยมได้

Goodnotes

• สามารถ export จาก Notion ไป Goodnotes ได้ โดย export เป็น pdf และเลือก open in Goodnotes ทำให้เราจด note เพิ่ม หรือ highlight ได้
• จาก Goodnotes เราสามารถสร้างคลังข้อมูลบน Notion ได้ โดยการเปิด multiple window เพื่อ drag & drop ด้วย lasso tool หรือเชือกบ่วง

• สามารถ share link เนื้อหา โดยการใช้ iCloud ทำให้เราได้เนื้อหาที่ update ตลอดเวลา

Notability สามารถแปะเป็นลิ้งบน Notion หรือจะ embedded บน Notion ก็ได้นะ

Design usable tricks

dashboard อยู่ที่เราอยากให้มีเนื้อหาอะไร เราต้องการแบบไหน แต่ละแบบเหมาะกับพื้นที่แบบไหน รวมถึงขนาดหน้าจอในการใช้งาน Notion ว่าใช้บนคอม หรือ iPad

ของคุณฟีฟ่าก็มีปรับไปตามความเหมาะสม ประมาณนี้

การใช้ icon เราดูแล้วต้องเข้าใจได้เลย ของเราใช้เป็น emoji นะ อันที่เป็น asethetic icons ก็น่าสนใจดี บางอันเข้าไปดูแล้วน่ารักมาก

hierachy ให้มีลำดับขั้นตอน และมีความต่อเนื่อง

ช่วงนี้เริ่มนิยมใช้ call out มาทำกรอบ

widget

ตัว flipclock และ pododoro มีหลาย ๆ เว็บให้เราเลือกใช้เนอะ

ส่วนไอเดียอื่น ๆ สามารถดูได้ที่ widgetbox.app และ apption.co ได้เลย

ใน session นี้ไม่ได้กล่าวถึง latex เนอะ เราก็เลยเอามาแปะ เหมือนเรา duplicate มาเลยกลายเป็น link notion เราเฉยเลย หาแบบ original ไม่เจอ แหะ ๆ

ตัว latex เหมือนเป็นอีกภาษานึงมั้งนะ

Notion – The all-in-one workspace for your notes, tasks, wikis, and databases.

A new tool that blends your everyday work apps into one. It’s the all-in-one workspace for you and your team

Notion

อันนี้ slide ของ session นี้ มีเป็น video ในนั้นด้วย อยากให้เปิดดูประกอบ 55

เพิ่มเติมเรื่อง Web Clipper สามารถดูคลิปนี้ได้เลยจ้า

พักเบรกที่ทางเราไม่ได้เบรกเท่าไหร่ กับ snack box ที่ดีที่สุดในกรุงเทพของเราในเวลานี้ กับ phoenix lava เป็นซาลาเปาลาวาไส้ไหล กับชา ที่ไม่ใช่ชาอู่หลง แต่เป็นชาอะไรนะลืม 55555555

Pae “Change my life with notion”

session นี้มีเป็นบล็อกให้อ่านด้วยล่ะ

Change My Life with Notion

ชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อใช้ Notion

Jitrak Blog

อะเครงั้นข้ามไป session ต่อไปเลย เดี๋ยว จะบ้าหรอ ใจเย็นกันก่อน

Why Notion

แล้วทำไมต้องใช้ Notion กันนะ

เราสามารถใช้ Notion แทนแอพอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นแอพพวก Note, Word, Spreadsheet, Calendar, Todo List, Task Management, Pomodoro

ชีวิตก่อนใช้ notion

ก่อนหน้านี้ใช้โปรแกรมเยอะแยะไปหมด กระจัดกระจาย ไม่เป็นที่เดียว ที่ปวดหัวที่สุด คือ calendar ในบริษัทที่ทำงานใช้ Google Calendar ส่วนบริษัทแม่ใช้ของ Microsoft

จุดเปลี่ยน

• Tool Overload ใช้ tool เยอะไป
• Mistake มีความผิดพลาดเกิดขึ้น เช่น จำวันที่ไป workshop แบบเสียเงินผิดวัน, ไม่ได้ไปรับสิทธิ์ photo group งานคอนเสิร์ต Kpop เพราะไม่ได้ check ว่าได้รางวัลไหม
• Know with Notion รู้จัก Notion ตาม Facebook feed เลยลองใช้ จึงตัดสินใจย้ายของจากทุกที่มาอยู่ที่เดียวใน 2 วัน
• Migrate to Notion ปัญหาในการย้าย คือ คือ notion ไม่สามารถ import จาก onenote ได้โดยตรง เลยเป็นท่า onenote → evernote → notion แต่ free plan ให้ใช้แค่ 60MB เลยยอมเสียเงินเพื่อย้าย ย้ายเสร็จก็ยกเลิก

การนำไปใช้จริง

• Calendar เอาไว้จด tech event และงานสังคมอื่น ๆ

• Lectures เป็นการ capture สิ่งต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้มาสำหรับงานที่ไปมา เข้า notion ข้อดีของ notion คือจัด layout รูปได้ค่อนข้างดี และสวยงาม รวมถึงมี code snippet สำหรับ developer ไว้จดโค้ดด้วยนะ

• Reading List บทความนี้เราเคยอ่านไปหรือยังนะ โดยใช้ตัว web clipper ในการช่วยเก็บข้อมูลตรงนี้

• Personal Profile Page ทำ personal profile page และสามารถเชื่อมกับ domain ที่เราจดไว้ได้ และยัง export เป็น pdf ได้ไฟล์ resume ของตัวเองไปอีก เอ้อแล้วก็สามารถปรับ scale present เพื่อให้มันพอดีได้ด้วยนะ

• Financial Tracking พอใช้แอพที่มัน automate ทำให้เรากลับไปดูมันไม่ค่อยบ่อย เลยใช้ Notion ในการทำ manual ให้เรากลับไปดูได้ทุกวัน มี database รายการ และ type ของมันอยู่

ส่วนนี้มี demo ด้วย ตัวกราฟใช้ภาษา mermaid มี preview mode แสดงด้วยล่ะ

อันนี้เป็น mermaid.js นะ เอาไว้แสดง diagram หรือกราฟต่าง ๆ ไปลองเล่นได้ที่นี่เลย

• Workshop Code Snippet เวลาสอนก็ใส่ทุกลิ้งที่ใช้ ใน Notion นี้ที่เดียว เวลาอัพเดตหรือมีอะไรใหม่ก็ดูได้จากที่นี่เลย
• OKRs ทำเป็นไตรมาส ซึ่ง 1 objective มีได้หลาย key results และตัว result base งานเราใหญ่เป็น activity base จะดีกว่า ดังนั้นควรเลือกใช้ให้เหมาะกับเรา

หนังสือ OKR แนะนำ เล่มแรก ตั้งเป้าชัด วัดผลได้ด้วย OKRs เล่มนี้เน้นองค์กร อีกเล่ม Personal OKRs ชีวิตจะสำเร็จตามเป้าหมาย ถ้าวัดผลได้เป็นระบบ ของคุณนภดล ร่มโพธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน OKR ในไทย เล่มนี้เป็นระดับ personal

• Habit Tracking เราสามารถทำ template หรือ custom ในแต่ละเดือนได้

• Books will buy จะได้ไม่ซื้อซ้ำ (ของเราเคยทำ list เล่มหนังสือที่มีอยู่พักนึง จะเป็นหน้าตา gallery แต่ขี้เกียจทำต่อล่ะ)

• Move เป็น timeline รายวันว่าไปไหนบ้างส่งให้บริษัท ในช่วงโควิดใหม่ ๆ ตอนนี้ไม่ทำแล้ว เพราะย้ายที่ทำงาน 555

• Spec computer ประกอบคอมใหม่ ซื้ออะไรไปบ้าง อันนี้ list กับเพื่อนของคุณเป้ที่ชื่อปั้ป (นี่ก็นึกว่าพี่น้อง เห็นชื่อ ป คล้าย ๆ กัน 555)

• Separate by project รายโปรเจกต์ อธิทานศัพท์ ว่าแต่ละเจ้าเรียกว่าอะไร จด note งาน meeting ต่าง ๆ

รวมถึงโปรเจกต์บ้านไอดอลด้วยนะ ในที่นี้ก็ Yena น้องเป็นอดีตสมาชิก วง Iz*One (ชื่อวง ไอจือวอน) วงเดียวกับน้องซากุระ

ทำไมรู้ พอดีเปิดเพลง New Jeans ฟังตอนขากลับ แล้วเพลงเล่นสุ่มไปจนเจอเพลง Yena อ่ะ

• BUJO ไปไหน กี่โมง และเริ่ม advance ขึ้น มี free writing กับ 5 min แล้วก็ mental garden

หนังสือแนะนำ เรามีทั้งสองเล่มเลย คือ The Bullet Journal Method: วิถีบันทึกแบบบูโจ เล่มนี้รีวิวไปแล้ว เรามีเล่มสีนํ้าเงินเหมือนคุณเป้เลย 5555555 เป็นภาคทฤษฏี กับ จัดระบบความคิด จัดระเบียบชีวิต ด้วยบุลเล็ตเจอร์นัล เล่มนี้เป็นของคนญี่ปุ่นเขียน เน้นใช้จริง

• Dashboard จดงานและ progress มี poromodo แล้วก็นาฬิกาด้วยนะ
• Feeling ทำเพื่อ tracking ในการพบแพทย์

• Kanban board อันนี้เดฟน่าจะคุ้นเคยเนอะ เป็นกระดานงาน คล้ายกับ Trello
• Dotfiles เป็นไฟล์ในการติดตั้งโปรแกรม หรืออะไรต่าง ๆ ของ developer แบบเวลาย้ายเครื่องก็สามารถ setup ได้เหมือนเครื่องเดิม โดยใช้คำสั่งเหล่านี้ สาย web น่าจะคุ้นกว่าสาย mobile แบบเราแหละ

Validate Data

มีการทำข้อมูลในการกรอก data ในเกมส์ ว่าทำงานถูกไหม แล้วแปลงให้ทีมอื่น ๆ เข้าใจได้ง่าย

ปล. ตอน demo แอบเห็นหน้าจอคุณเป้ตั้งเป็นน้องสาคูด้วยนะ

หลังจาก demo ก็พบคำสอนของพี่กะเทย

แล้วก็ป้ายยาหนังสือไป 2 เล่ม คือ Building a Second Brain และ Getting Things Done (อันนี้เราไปเรียนของบริษัท ได้หนังสือมาเป็น reference เล่มหนามาก ยังไม่ได้อ่านเลยจ้า)

แนะนำอื่น ๆ

August Bradley - Life Design

I help people who feel they’re not progressing in life achieve what matters most to them by implementing a Life OS called Pillars, Pipelines & Vaults (PPV). I do this by massively leveraging the Notion software platform. My Notion Life Design course and online community are at www.YearZero.io Also…

YouTube

Red Gregory

Red Gregory - A Notion.so appreciation blog. Templates, formulas, functions, dashboards and how to use the app most effectively

Red GregoryAll Templates

Red Gregory

Share your videos with friends, family and the world

YouTube

สไลด์ย้อนหลังจ้า

Toy “Second brain with notion”

session สุดท้ายของงาน ที่เนื้อหาเรียกได้ว่าสมกับ session ปิดงานเลยครับ กับแอดทอย แห่ง DataRockie คนับ แอดมินเพจ data หลักแสนฮับ

มีคนนึงทำเงินกับการทำ Notion template คือคุณ Easlo เขามีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น ทำเงินไปในช่วงปลายปีที่แล้ว ถึง 200,000$ ไปแล้วจ้า

ปัจจุบันของคุณคนนี้ที่เราส่องทวิตเขามา

ดังนั้น session นี้จะเป็นการกล่าวถึงการสร้าง second brain เพื่อสร้าง one-person business ได้

แล้วเราจะเริ่มยังไงดีนะ?

จากแผนภาพนี้ เริ่มจาก

• Find the problem: หาปัญหาที่ต้องการแก้ เช่น คนหา Notion template
• Learn to solve it: จากนั้นแก้ปัญหานี้
• Productize: สร้าง digital product ออกมา เพื่อ clarity ในโลก business ได้
• Market and Sell: นำไปขายจริง

จากนั้นพูดถึงหนังสือ Building a Second Brain คนเขียนชื่อว่า Tiago Forfe

เขาได้กล่าวไว้ว่า creator มี 2 ประเภท

• Entertainment ให้ความสุขคน
• Value สร้าง content ที่มี value ให้คนอ่าน ทำให้สามารถสร้างเงินจากสิ่งนี้ได้

จริงๆ Tiago เขาเป็นคนไม่ชอบจด แต่จดด้วยสถานการณ์บังคับ คือมีอาการป่วย พูดแล้วเจ็บตามร่างกาย หมอไม่ได้บอกว่าเป็นโรคอะไร เลยเอาประวัติคนไข้ของตัวเองจากหมอ แล้วจดเป็น digital แล้วหาว่าทำอะไรให้ร่างกายดีขึ้น และเชื่อมโยงความสัมพันธ์เข้าด้วยกัน จนรู้ว่าตัวเองเป็นโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ดังนั้นหมอเป็นส่วนหนึ่ง บวกกับ Power of Writing นะ ปัจจุบันยังไม่หายขาด แต่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ

ส่วน Power of Sharing เราตอบคำถามนั้นได้ ภายในเวลาไม่กี่นาที เพราะมี second brain

หนังสือ Four Thousand Weeks กล่าวไว้ว่า มนุษย์ไม่สามารถจัดการเวลาได้เลย เวลามีจำกัด เอาเวลาไปทำอะไรชิว ๆ บ้างก็ได้ ไม่เอาเวลาที่มีมา productive มากเกินไป (ซึ่งการ productive ใช้เพื่อเอามา fill รับงานใหม่)

ดังนั้น

Notion เป็น second brain tool ไม่ใช่ productivity tool

The Foundation

David Allen ผู้แต่งหนังสือ หนังสือ Getting Things Done บอกว่า ถ้าเราไม่จดไว้ อาจจะลืมได้

และ Tiago Forte บอกว่า เราสามารถนำความรู้ที่มี ไป reuse ได้ เรียกว่า knowledge workers

26% หรือ 1 ใน 4 ของชีวิตประจำวัน คนเรา search หาข้อมูลในการทำงาน ซึ่ง 56% เป็นข้อมูลที่เราหาเจอ

What is Second Brain? 🧠

second brain 🧠: ช่วยเราจดจำ + search ได้ + สร้างองค์ความรู้เองได้

Digital Commonplace Book คือ สมุดที่จดโน้ตของตัวเองไว้ ให้มองการจดโน้ตเป็น knowledge building block

ข้อดีของการจดโน้ตบน Notion คือ ด้วยความที่มัน online มันสามารถ sync ได้ และไม่ต้องกังวลเรื่องสมุดหาย (อันนี้เสริม บางทีไม่ต้องกังวลว่าต้องแบบสมุดหนัก ๆ ไปด้วย อย่าง BUJO เล่มนึงก็ไม่เบาแล้ว)

inputs → second brain 🧠 → outputs

โดย second brain เป็นการสร้างบางอย่างจาก information ที่เรามีอยู่นั่นเอง

Steve Jobs เคยกล่าวถึง Connect the dots backwards แต่ในที่นี้ ถ้าเราจำได้ว่าเราเรียนอะไรมาบ้าง ที่เราเรียน อาจจะ work ในภายหลังได้ เช่น Steve Jobs เรียนออกแบบ ตัวอักษร แล้วนำมาใช้ในการทำ font บน mac

อีกข้อดีของ second brain ในโลก digital ก็เหมือนการฝากเงินในธนาคาร

แอพที่ใช้ทำ second brain หลัก ๆ จะมี Evernote, Obsidian, Roam Research และ Notion

State การทำ PKM

หรือ Personal Knowledge Management ก็จะมี

Remembering → Connecting → Creating

• Remembering เป็นการจำ
• Connecting เชื่อมโยง
• Creating เป็นการสร้าง production เพื่อตอบโจทย์ สิ่งที่คนขาดไม่ใช่ motivation แต่ขาดวิธีการทำให้ได้มันมามากกว่า

ทางเราเคยฟังเรื่อง PKM แล้วเอามาสรุปด้วย สามารถอ่านได้ที่นี่เลยจ้า เผื่อใครอยากรู้เพิ่มเติม

จดบันทึกจาก online event ที่ชื่อว่า Personal Knowledge Management

พอดีเราได้เข้าร่วม online event ของ Clazy Cafe’ ที่ชื่อว่า Personal Knowledge Management ของดร.เสาวภา หลิมวิจิตร, อาจารย์ประจำภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เลยจะมาเล่าให้ฟังเผื่อเป็นประโยชน์เนอะ

MikkiPastelMinseo Chayabanjonglerd

one-person business

ที่ต่างประเทศจะใช้ Twitter ในการ build business (ในไทยอาจจะไม่ work แต่ทางเราคิดว่าในไทยยังมีพอโอกาสเป็นไปได้อยู่นะ) เรื่อง engagement หรือ reach อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับการทำ service ให้ตอบโจทย์ลูกค้า 10 คนแรก และขยายไปโดยวิธีปากต่อปาก

The Code Method

หลักการ CODE คือแปลง information ออกมาเป็น content เพื่อส่งต่อให้กับคนอื่นได้

Capture → Organize → Distill → Express

Capture:

• process การ capture จะเป็นอะไรก็ได้ อันนี้มีแบ่ง type เป็น external และ internal นะ

• capture เสร็จ นั่งดูด้วย
• เลือก capture ที่ตอบโจทย์ หรือตรงความต้องการของเรา
• value ไม่ได้กระจายตัวทั้งหมด เช่น หนังสือ เราไม่จำเป็นต้องอ่านหมดเล่มก็ได้ อ่านเฉพาะที่เราสนใจก็ได้ 555

Organize:

การจัดการ แบ่งเป็น

1. hot data — access เข้าไปดึงมาใช้เรื่อย ๆ
2. cold data — ไม่ได้ใช้บ่อย เก็บไว้ก่อน

อันนี้เป็นหมวดหมู่การจัดการ โดยตัว hot data อยู่ด้านซ้ายสุดเลย

• Project เป็น short-term เหมือนวัตถุดิบอาหาร
• Area เป็น long-term ที่มีระยะเวลา 6 - 12 เดือน
• Resource ใส่ในเรื่องที่เราสนใจ
• Archive อันนี้นอกเหนือจาก 3 อันแรก

เขาให้ organize base on action เน้นจดโน้ตเพื่อตัวเองในอนาคต เพื่อให้ทำความเข้าใจได้เร็วขึ้น

Distill:

เป็นการย่อยหรือข้อมูลออกมา เช่น ภาพยนตร์เรื่อง godfather ผู้กำกับ note ว่าเนื้อหาในหน้านี้ ซีนนี้ทำอะไรบ้าง

highlight 2.0 เป็นวิธีในการช่วยทำสรุป คร่าว ๆ คือ capture note ไว้ก่อน ต่อมาเน้นด้วยตัวหนา แล้ว highlight และทำ summary สรุปจากที่เราทำทั้งหมดออกมา

Capture Notes → Bold Passages → Highlight Passages → Executive Summary

Express:

ยิ่งทำมาก ยิ่งได้มาก

show your work เช่น การที่เราได้ cerf นี้มา เรารู้อะไรในระหว่างทางบ้าง หรือ portfolio ทำเสร็จกด share ได้ แต่ข้อเสียคือเรื่อง SEO ที่ไม่ค่อยดีเท่ากับเราทำ website ของเราเอง หรือเทียบกับใน medium ก็ได้ ดังนั้นเราจะต้องใช้ tool ให้เหมาะสมกับงาน

ซึ่ง show your work เป็นสิ่งสำคัญสำคัญ ในการถ่ายทอดในสิ่งที่เราได้รู้มาให้คนอื่นได้อ่าน

Intermediate Packets (IP) เป็นพลังในการคิดให้เล็กลง เราอาจจะ deliver ของให้เร็วขึ้น เช่น อยากทำหนังสือขาย อาจจะไม่ต้องเขียนทั้งเล่ม แล้วนำไปเสนอสำนักพิมพ์เลยทั้งเล่ม อาจจะทำเว็บไซต์แล้วปล่อยทีละบท แล้วรับ feedback จากคนอ่าน ถ้าครบทั้งหมดก็ส่งสำนักพิมพ์ตีพิมพ์ เป็น Agile concept

module เป็นการดึงแต่ละ Intermediate Packets มาสร้างองค์ความรู้ใหม่ขึ้นมา และช่วยแก้ปัญหาได้ เช่น ถ่ายรูปด้วยมือถือยังไงให้สวย เรานึกถึงใคร ถ้าเป็นเราจะเริ่มยังไง

สรุปทั้งหมดงับ

คนนี้แอดทอยแนะนำ เขาชื่อ Dan Koe เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ดาราเซเลปใด ๆ แต่เขามี follower ถึง 1 ล้านคนด้วยกัน เป็นคนที่เขียนเก่งมาก ๆ ซึ่ง writing skill เป็น skill หลักที่เราต้องมี

DAN KOE (@thedankoe) • Instagram photos and videos

1M Followers, 345 Following, 860 Posts - See Instagram photos and videos from DAN KOE (@thedankoe)

Instagram

แล้วก็สามารถอ่าน One-Person Business ได้ที่นี่เลย อันนี้เป็นอีกเว็บนึงของแอพทอยแหละ

รู้จักกับ One-Person Business เทรนด์การทำงานใหม่ในโลก Digital

เรียนวิธีการสร้าง One-Person Business ด้วยโมเดลของ Dan Koe สร้างรายได้ 1 ล้านบาทภายในสามปีด้วย Digital Business ที่ใครๆก็ทำได้

Duck PhilosophyKasidis Satangmongkol

อันนี้ online course เรื่อง OKR กับต้นตำรับจ้า เรียนฟรีด้วย

OKR Certification: Leadership and Goal Setting

Offered by Measure What Matters. “Ideas are easy. Execution is everything.” -John Doerr In this one-of-a-kind OKR Certification, John Doerr ... Enroll for free.

Coursera

แอบเม้านิดหน่อย ตอนแรกกลัวทำบล็อกเสร็จไม่ทัน เพราะจด session นี้ไว้เยอะมาก 55555

เราก็เลยพิมพ์จากที่ตัวเองจดในสมุดโน้ต ลงใน Notion ข้อดีคือ พวก -> มันแปลงให้สวยเลยล่ะ พอพิมพ์ในมือถือก็ใส่อีโมจิไปเลยแล้วกัน เพราะ keyboard มัน suggest ให้อะนะ

เอ้อเกือบลืม slide ย้อนหลังของ session สุดท้ายจ้า

เมื่อจบทุก session ในงาน ก็มีการถ่ายภาพรวมเป็นที่ระลึก และบรรยากาศงานจากทาง Notion Thailand เนอะ

.

ปล. ในคอมมู Stocker DAO สนใจ Notion กันหลายคน เพราะเราเป็นคนป้ายยาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่คนเป็น Notion ก็ใช่ว่าจะเริ่มต้นสอนนับหนึ่งแบบรู้เรื่องด้วยนะ 555

จบบล็อกไปด้วยทวิตของพิม ในการนำ Notion ไปใช้ในการบริหารเพจ Stocker Day กันเนอะ ซึ่งของ Stocker DAO ก็กำลังไปแนวทางนี้อยู่แหละ

ติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ และทุกช่องทางโดเนทกันไว้ที่นี่เลย

ติดตามข่าวสารแบบไว ๆ มาที่ Twitter เลย บางอย่างไม่มีในบล็อก และหน้าเพจนะ