จดสรุป "NFT ตอนนี้ยังน่าเล่นอยู่ไหม ถึงขาลงแล้วหรือยัง ?"
วันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่ทางเพจ Stocker Day มีกิจกรรม Clubhouse ใน Discord ในวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2565 เวลา 20:00 กับคุณมายด์ Community Manager ของ Metawarden จ้า
บทความนี้เป็นบทความจดสรุป ซึ่งไม่ได้แนะนำเรื่องการลงทุนนะ อันนั้นวิจารณญาณของแต่ละคน เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง แต่สรุปเพราะว่าเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์ และเป็นการเปิดโลกอย่างนึงเลยว่าเอ้ออ โปรเจก NFT เขาทำกันยังไงนะ? แล้วทำไมเขาถึงลงทุนกันนะ?
ชวนคุยก่อนจะเริ่ม session ว่าเข้าวงการ NFT ได้อย่างไร?
- คุณมายด์ : เข้ามาวงการเพราะ NFT จากข่าว NFT ของ nyan cat และข่าว cryptocurrency ต่างๆ
- แอดพิม : เริ่มจากกระแส GameFi ที่เป็น NFT game ก่อน อย่าง Axie Infinity และในต้นปีก็ได้ซื้อ NFT Profile Picture ของ Bittoon และ Metawarden ด้วย
- แอดหมี : ตลาด crash จากที่ถือ stable coin มาถือเหรียญอื่นๆ เช่น Axie Infinity เช่นกัน และทำ research เกี่ยวกับ Bored Ape Yacht Club (BAYC) ด้วย
องค์ประกอบการทำ NFT project ได้สำเร็จ
อันนี้แอดหมีเป็นคนกล่าวไว้ จากการ research มา ซึ่งขึ้นกับ 3 อย่างนี้
- สร้าง community ก่อนขาย
- ทำการ launch หรือเปิดขาย
- สิ่งที่สำคัญมากในระยะยาว คือการทำ long-term plan ให้ NFT project ของเราอยู่รอดได้ในตลาด และมีความแตกต่างจากโปรเจกอื่นๆด้วย
ความซบเซาของตลาด
ตลาด NFT ช่วงนี้ซบเซาลงจริงๆ จากเดือนมกรา 6 ล้าน ตอนนี้เหลือเพียง 1.5 ล้าน ลดลง 6 เท่า ทุก chain เงียบกันหมด จะมีช่วงบูมมากๆจนค่อยๆ drop ลงมา แต่มี chain นึงที่ยังบูมอยู่ คือ Arbitrum นั่นเอง
สาเหตุนึงอาจจะเพราะว่าคนแต่ละ chain หรือ user มีความแตกต่างกัน อาจจะมีหลาย marketplace ที่ยังไม่ได้ explore เข้าไป
เราสามารถตรวจสอบข้อมูล volumn ต่างๆ และข้อมูลบน blockchain สำหรับ NFT ได้ที่เว็บไซต์ CryptoSlam ได้เลย
สำหรับ Ethereum นั้น volumn คนซื้อลด ทำให้ค่า gas ลดลงมาด้วย
มีพูดถึง Flow Blockchain ด้วย ที่ไปร่วมกับ community ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น NBA, CryptoKitty และล่าสุด Attack on Titan
ทำไม Volume ถึงลดลงหล่ะ?
- พฤติกรรม, user, กระแสที่บูมมากๆไปแล้ว ซึ่งไม่แตกต่างจากหุ้น อยู่ที่ว่าเราสนใจจะเข้าไหม และตอนนี้น่าเข้าหรือเปล่า การจัด port ของเราควรมี NFT ไหม เพื่อให้ได้กำไรสูงสุด อยู่ที่ว่าเราเช้าใจมันมากแค่ไหน และใช้ประโยชน์จากมันได้มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่เราต้องเข้าใจและศึกษามากกว่า
- จะมีการปรับฐาน NFT เพราะราคา over เกินไป คน FOMO จน peek เกินไป ยังมีโอกาสไปต่อได้ และอาจจะขึ้นไปอีกก็ได้
- ในยุคที่ DeFi บูมเมื่อปีที่แล้ว เป็นการคัดเลือกว่าอันไหนรอด ตัดโปรเจกที่อยู่ต่อไม่ได้ออกไป และกลับมาขึ้นใหม่อีกรอบหนึ่ง
- หลายๆ NFT โปรเจกต้องการเงินก้อนแรก พอขายหมดรอบแรกก็ไม่ได้พัฒนาต่อ ตาม roadmap ที่วางไว้
- ตัว NFT เองมีสภาพคล่องตํ่ากว่า cryptocurrency แบบอื่นๆ ทำให้ค่อนข้างชะลอตัว และในระยะยาวก็ยังเป็นกระแสอยู่
NFT ทำอะไรได้บ้าง?
- แล้ว NFT เองไม่ใช่แค่ profile picture อย่างเดียวนะ จริงๆจะผูกกับอะไรก็ได้ และมี usecase มากขึ้นเรื่อยๆด้วย เช่น DAO
- ถ้าโปรเจกไหนน่าสนใจ จะทำให้ NFT ในโปรเจกราคาดีด้วย ใช้แทนเหรียญ (เป็นแนว NFT + project + DeFi + Web3) DAO ในต่างประเทศจะใช้เป็นเหมือนบัตรผ่าน สามารถระบุตัวตนของเราได้เลยผ่าน Discord เช่นของ Coachella (เทศกาลดนตรีระดับโลก ที่ Blackpink เคยไปเล่นด้วยน้าา ที่เราเคยดู live straming ก็จะมี Ariana Grande, Billie Eilish แล้วก็คนอื่นๆด้วย) ทำให้เราเห็น usecase การใช้งานในโลกจริงมากขึ้น
- NFT ทำให้คนทั่วไปเข้าใจ และเข้าถึงโลก Cryptocurrency ได้มากขึ้น และการทำ content NFT คนเข้าใจง่ายกว่าการเทรดเหรียญ อีกทั้ง NFT ยังบ่งบอกรสนิยม ความชอบของแต่ละคน บ่งบอก lifestyle ของเรา และความเป็น gang
โปรเจก NFT : artist + team + community เช่น 3lander ราคา floor price ในตอนที่เขียนบล็อกนี้คือ 1.73 ETH เป็น community สำหรับช่างฝัน และอยากทำฝันนั้นให้สำเร็จ
การลงทุน NFT
- ระยะสั้น : whitelist ซื้อมาแล้วขายต่อ, ระยะยาว : ซื้อเก็บสะสม ซื้อเก็งกำไร → คุ้มของเรา คือแบบไหน?
- เดี๋ยวนี้มี DeFi สำหรับ NFT มีปล่อยเช่า/ปล่อยกู้ NFT หรือหุ้นกันซื้อ NFT ก็ได้ โดยมองว่า NFT เป็น asset บางที่มี stake NFT เอาไปเทรด หรือเอาเจ้า NFT มาเป็นสินทรัพย์ในการคำ้ประกันเงินกู้ หรือสร้างเป็น guild game
ดูปัจจัยไหนบ้างก่อนที่จะเข้าไปซื้อ NFT
คุณมายด์ :
ศึกษาโปรเจกแล้วก็ artwork ก่อน
- Collectible ถูกใจ น่าสะสม
- Community แข็งแกร่ง เติบโต มีความ decentralized ทำให้โปรเจกเติบโตได้เหมือนกัน
- Utilities : ใช้งานจริงแล้วได้รับผลประโยชน์บางอย่าง
- Artwork : มีความ original และโดดเด่น โปรเจก wow ดันให้เติบโตไปด้วยกันได้
แอดนินจา
เพิ่มเติมจากคุณมายด์ : เลือกจาก NFT ที่เหมาะสมกับเราที่สุด เนื่องจากราคาแพง และลงทุนจำนวนได้ไม่มาก เช่น artwork ที่สื่อถึงตัวเรา community เป็นที่ของเราจริงๆ อยู่แล้วสบายใจ อยากเติบโตไปด้วยกัน
แอดพิม
เพิ่มเติมจากคุณมายด์ : ดูทีมที่เขาทำงาน มีความตั้งใจจริงๆไหม จึงให้นํ้าหนักกับ community ก่อน
- community : ดูแล และ engage ตลอดเวลา เติบโตได้ดี
- artwork : มีความสวยงาม ตรงกับความชอบของตัวเอง
- team : มีความใส่ใจดูแล community ไหม
- holder และจำนวนชิ้น
แอดหมี
- ซื้อเพื่อสะสม : ถูกใจไม่มีคำว่าแพง
- ซื้อเพื่อลงทุน : มองเรื่อง brand เป็นหลัก → community, artwork ไม่ค่อยชอบซื้อมือสอง เน้น whitelist
การที่จะ shit หรือ moon ได้นั้น อยู่ที่ community และถ้าไม่ moon หรือแตก เราจะทำยังไง? เราจะเก็บ หรือขายต่อออกไป (ถ้าซื้อที่เราถูกใจตอนมันไม่ moon จะรู้สึกดีกว่า)
สัญญาณอะไรที่บอกว่า NFT ขาลง
- volume ต่างๆเริ่มลดลง และ NFT ที่เกิดใหม่ ได้กำไรไม่เยอะแล้ว (กำไรไม่ถึง 10%) อีกทั้งคนทำ NFT เต็มตลาด
- ความผันผวนของ floor price : ถ้าตกลงเรื่อยๆ มักจะไม่ค่อยดีดกลับไปเหมือนเดิม ร่วงแล้วกลับขึ้นยากมาก ไม่เหมือนเหรียญคริปโต บางอันเจอ bot ซื้อแล้วเทขาย
ระยะเวลา 3 เดือนเป็นเวลาพิสูจน์ความแข็งแกร่งว่าอยู่ไหวไหม
% holder ยิ่งเยอะยิ่งดี เป็นการบอกศักยภาพของ community นั้นๆ
Tool ที่ช่วยดูโปรเจก NFT ที่น่าสนใจ
- icy.tools
- nansen.ai
- NFT calendar ดูได้ว่ามีโปรเจกไหน launch เมื่อไหร่ รายละเอียดเป็นยังไง
- Twitter ของโปรเจก NFT นั้นๆ ดูความเคลื่อนไหว และ engagement ต่างๆ แล้วก็ยอด follow ที่ไม่ใช่บอท
โปรเจกเปิดใหม่ควรทำการตลาดยังไงดี?
- สร้าง community → build ให้เป็นที่รู้จัก มีการพูดคุยกัน ให้เห็น artwork ของเรา อาจจะเปิด sneak peek ดึงดูด lifestyle ให้ตรงกับ NFT
- เพื่อนบอกปากต่อปาก : อาจจะ partner กับโปรเจกอื่นๆหรือแบรนด์ต่างๆ และสามารถต่อยอดการใช้งานในอนาคตได้
note :
- บางโปรเจกเติบโตจากพลังของ partner และมีการ engage กับคนที่สนใจโปรเจกของเรา
- artist หรือคนปกติที่ไม่ใช่ influencer อาจจะเหนื่อยหน่อย ดังนั้นตัวผลงานเป็นการดึงดูดทุกคนเข้าหากัน เป็นเจ้าของร่วมกัน และทุกคนช่วยเหลือผลักดันให้เกิดขึ้นได้
- มี partner ของ Metawarden ไป paint ที่ลานสเก็ต งานของคนนี้เคยถูกนำมาจัดแสดงที่มิลาน ทำให้ art ของเขาติดตา ให้คนเห็นงานของเขาบ่อยๆ ทำให้เกิดความชอบได้มากขึ้นด้วย
สุดท้ายช่องทางติดตามคุณมายด์
จบ session มีกิจกรรม Kahoot อยู่เช่นเคย คำถามเกี่ยวกับ NFT ซึ่งก็เหมือนรอบก่อน คือ แรกๆจะยาก หลังๆมาง่ายเฉย แต่ทางเราก็อยากทดสอบความรู้ตัวเอง แต่ก็พยายามให้คนอื่นๆเขาได้บ้าง โดยรอบนี้จะได้เป็นบัตร Block Mountain ราคาใบละ 2,000 บาท แต่จัดที่เชียงใหม่นะเออ
สุดท้ายหล่ะ ทางเราได้ส่ง fanart ของ MetaWarden ด้วยน้าาา รูปที่ส่งเข้ากิจกรรมนี้มีเอาไปจัดแสดงจริงทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนด้วยน้าาา~~
ก็จบบล็อกกันเพียงเท่านี้แหละเนอะ ขี้เกียจทำรูปหล่ะนะ 555
สามารถ support ค่ากาแฟเจ้าของบล็อกได้ที่ปุ่มแดงส้มสุดน่ารักที่มุมซ้ายล่าง หรือกดปุ่มตรงนี้ก็ได้จ้า
กด follow Twitter เพื่อได้รับข่าวสารก่อนใคร เช่น สปอย content ใหม่ หรือสรุป content เร็วๆในนี้จ้า
ติดตามข่าวสารและบทความใหม่ๆได้ที่
Subscribe ช่อง YouTube ของเราได้ที่
download แอพอ่านบล็อกใหม่ของเราได้ที่นี่