มารู้จัก google adwords จาก beginner สู่ advance โดยพี่เซียร์
สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน พบกัน workshop แรกของปี ว่ากันด้วยเรื่องของ online marketing ที่มีหลายหลากวิธี ในวันนี้จะเป็นเรื่องการทำ online marketing ด้วย Google Adwords สอนโดยผู้เชี่ยวชาญทางนี้โดยเฉพาะ คือ พี่เซียร์ รุ่น 13 นั่นเอง จัดขึ้นวันที่ 11 มกราคม 2560 ซึ่งข้างล่าง NIA จะมีงานวันเด็กเหมาะกับรุ่นเราๆเลยทีเดียว ผิดหล่ะๆ เดินกดลิฟต์ชั้น 3 ไปห้อง 301 โลดคะ
ก่อนหน้านี้ในกรุ๊ปไลน์รวมรุ่นจะมีให้ลงทะเบียนกันก่อน โดยใส่เว็บที่เราต้องการโปรโมตด้วย ในที่สุดมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 14 บริษัท แต่เรายังไม่ได้เปิดบริษัทเลย แต่จะใช้กับโปรเจกอื่นๆในอนาคตอันใกล้นี้
ก่อนอื่นพี่ป๋อก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเว็บของสำนักงานนี่แหละ เมื่อก่อนเป็น text ล้วนๆเลย พอมาเปลี่ยนเป็นหน้าตาปัจจุบันที่รูปเยอะๆ กลายเป็นว่าคนหาเว็บสำนักงานไม่เจอ เพราะตัว text จะทำ SEO ได้แทบจะอย่างเดียวเลย ส่วนวิธีแก้คือใส่ชื่อรูป และข้อความใต้รูป พี่บอทของอากู๋จะได้หาเจอเนาะ
จากการอบรม คิดว่าเราพยายามเขียนให้คนอ่านเข้าใจง่ายที่สุด บวกกับความรู้เก่าตอนที่ไปเรียน digital marketing จากพี่ฝน สุมนา ตอนอบรมเถ้าแก่น้อยเทคโนโลยีปี 4
agenda ในวันนี้ เป็นดังนี้
มาลุยกันแต่ละหัวข้อเลยจ้า
1. Google Account Setup
เว่ากันแบบง่ายๆ ผู้อ่านมี Gmail หรือเปล่าคะ ถ้ามีแล้ว เข้าไปที่ https://adwords.google.com เลยคะ
2. Introduce Google Adwords
การตลาดในโลกมนุษย์ของเรา จะแบ่งเป็นสองแบบใหญ่ๆ คือ
on ground marketing หรือแบบ Offline จะมีทั้งสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ป้ายโฆษณา
online marketing คือ อยู่บนออนไลน์ เช่น
- Google Search เวลาที่เราเข้า Google ค้นหาสักสิ่งอัน จะมีป้ายเขียวๆเขียนว่า ads อยู่ นั่นคือเป็นการซื้อโฆษณา ซึ่งใช้จะอยู่นอกจากผลลัพธ์ที่เราค้นหา ถ้าในผลลัพธ์ที่เราค้นหาแรกๆ ต้องใช้ SEO หรือใช้ keyword ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้เวลาทำนาน อย่างตํ่า 6 เดือน
- Google Play ก็มีเช่นกัน เป็นป้ายเหลืองๆ ไม่รวมกับการค้นหาเช่นกัน
ใน Facebook ก็จะมีเช่นกัน เวลาเราเลื่อน feed ก็จะเห็นโพสที่เป็น sponsor หรือแถบข้างๆในคอม
ใน Youtube จะเป็นแบบ display บางทีคั่นเป็นตัววิดีโอ เป็นแถบโฆษณาขึ้นด้านล่าง หรือไม่ก็ด้านข้างวิดีโอ มีอีกอันด้านบนหน้าเว็บ จะขึ้นวันละเจ้าเท่านั้น ได้ข่าวราคาแรงอยู่นะเออ
สรุปถ้าเราใช้ Google Adwords จะขึ้นที่ไหน จะขึ้นใน Google Search ใน Play Store ใน Youtube ต้องลองเล่นดูเนอะ
ในคอร์สนี้ จะเป็นการลงโฆษณาบน Google Search นะ เพราะทุกท่านที่เรียนคอร์สนี้มีเว็บเป็นของตัวเอง และคนเข้าไปถามอากู๋ทุกวัน ดังนั้นก็จะเจอง่ายสุด
3. KPI setting
คำศัพท์น่ารู้
- impression จำนวนคนที่เห็น ads เรา อาจจะเทียบกับพื้นที่หน้าเว็บว่าโฆษณาเรากินพื้นที่เท่าไหร่
- click ตรงไปตรงมา ก็คนที่มาคลิกโฆษณาที่เราสร้างนั่นแหละ
click through rate เรทคนที่มาคลิกโฆษณาเป็นเท่าไหร่ - interaction หลังจากกดเข้ามาแล้ว
bounce rate คนที่เขามายังไม่ทันทำอะไร กดออก - conversion rate คนซื้อของในเว็บเราเท่าไหร่
bucket rate ตะกร้านึงซื้อของเท่าไหร่ - active user สำหรับแอป คือ คนที่ลงแอปเราแล้วยังเปิดแอปเราใช้อยู่
- customer lifetime value เราแปลความง่ายๆ เราได้ลูกค้า 1 คน ใช้เงินเท่าไหร่
คำศัพท์ตระกูล cost per ทั้งหลาย แปลไทยง่ายๆว่า จ่ายเพื่ออะไร
- CPM (cost per impression) ให้คนเห็นโฆษณาของเรา 1000 คน ใช้เงินเท่าไหร่
อันนี้มีสูตรนะCPM = (cost/impression) * 1000
- CPC (cost per click) จ่ายเท่าไหร่ให้คนมาคลิก
- CPA (cost per action) จ่ายเมื่อคนกดโฆษณา มี action บางอบ่างกับเว็บไซต์เรา
- CPO (cost per order) ทำให้ลูกค้าเป้าหมายของเรา มี potensial สูงในการซื้อของเรา
- CPR (cost per revenue) จ่ายเพื่อให้เรามีรายได้ เข้าใจว่าน่าจะถึงขั้นลูกค้า checkout ตะกร้าสินค้าไปแล้ว ถึงจะจ่ายเงินค่าโฆษณา
- CPI (cost per installation) จ่ายเพื่อให้คนมาลงแอปปิเคชั่นของเรา
4. Keyword planner
ไปที่ keyword planner https://adwords.google.com/KeywordPlanner
ระหว่างนี้หลายๆท่านจะมีปัญหาตอนนี้ เพราะเข้าไปเจอกรอกตัว billing ซึ่งต้องใส่เลขบัตรเครดิตและที่อยู่บ้าง ให้สร้างตัว campaign เลยบ้าง แต่เราไม่เจอเฉย คงเพราะผูกบัตรเครดิตใน play store และกรอกที่อยู่ใน google adsense เลยไม่ได้เจอปัญหานี้ -*-
กดตรงปุ่มสีนํ้าเงินนั่นแหละ และเข้ามาที่หน้านี้
เราคุยกับตัวเองว่าเว็บเราเด่นอะไรบ้าง ลงกระดาษที่จดให้
จากนั้นพี่เซียร์จะมาดูแล้วสรุปให้เรา ดังนั้นเราต้องรู้ เนื้อหาของเว็บไซต์เรา และสามารถสร้าง character ของเว็บเราได้ เพื่อนำจุดเด่นของเว็บเรามาทำตัว ads ต่อไป
จากนั้นกลับมาที่ keyword planner ของเรา กรอกข้อมูลไปดังนี้
ข้อมูลเยอะ สามารถดาวน์โหลดไฟล์มาส่องแบบชิวๆได้นะ
พบว่า คนค้นหา android app development เยอะ คำให้เราต้อง bid ในราคาที่สูง ส่วน python programming คนหาน้อย ราคา bid นี่ ไม่รู้ดิ น่าจะไม่มีใคร bid มั้ง ถ้า python code เรา bid คำนี้ที่สองบาท และไม่มีใครใช้ keyword นี้ในการทำ adwords ดังนั้น ads ของเราขึ้นบนสุดแน่นอน
แล้ว bid คืออะไร ตรงความหมายคือประมูล ถ้าเรา bid ในราคาสูง จะมีโอกาสขึ้นโฆษณาตำแหน่งดีๆ อย่างสามอันที่หน้าแรกงี้ ที่หนึ่งสองสามอยู่ด้านบนเหมือนกัน แต่ลำดับต่างกันเพราะบนสุดจ่ายเงินเยอะ แต่ถือว่าคนเห็นเท่ากันนะ เพราะมันจุดเดียวกันนี่เนอะ
แปะเคสตัวอย่างจากที่เคยได้อบรมเรื่อง digital marketing เนอะ จำได้ไม่ลืมเลย
มองไม่ผิดหรอก ทาง grab ก็ bid คำว่า uber และทาง uber ก็ bid คำว่า grab เช่นกัน ลองค้นหาดูได้ :)
เมื่อทดลองกันเรียบร้อย ก่อนเบรก พี่เซียร์ได้ให้เราคิดตัว ads บน google search ว่าเราจะต้องเขียนอะไรบ้าง
ข้อความหลัก 30 ตัวอักษร
ข้อความรอง 30 ตัวอักษร
และคำบรรยาย 80 ตัวอักษร
ส่วนตัวลิ้งค์ใส่อะไรก็ได้ เคยมีเคสนึงประมาณว่าเราเป็นเจ้าใหญ่ เกาะเจ้าตลาดอยู่ แล้วก็ทำ ads นี้แหละ ใส่ลิ้งของเจ้าตลาด พอกดมัน redirect ไปหน้าเว็บบริษัทตัวเอง เคสนี้ เราต้องส่งไปบอกทางกูเกิ้ลไทยให้ระงับโฆษณานี้ และส่งจดหมายไปบอกบริษัทที่ทำ ads นี้ว่า จะเอาออกเอง หรือจะให้เราดำเนินการตามหมายศาล
บรรยากาศการเรียนคะ ตั้งใจกันสุดๆ พี่เซียร์เดินดูนักเรียนทุกคนอย่างทั่วถึง เพื่อนๆในคลาสก็ช่วยกันเรียน
พักกินหนมกัน...
5. Campaign Setting
จากนั้นเรามาเริ่มสร้าง campaign ads ตามมาเลยคะ กดที่ create your first campaign คนที่เคยทำแล้ว กดปุ่มสีแดงๆได้เลยจ้าา
ตั้งชื่อแคมเปญ เลือก type เป็น search network only ซึ่งถ้าเราโปรโมตแอป หรือในยูทูป ก็เลือกประเภทได้จากตรงนี้เลยนะ ตรง all feature จะมีบางอันที่เพิ่มขึ้นมา เช่น สามารถตั้งเวลาการแสดง ads ได้
ติ๊กออกตรง include search partner ออก ถึงแม้ว่าจะลงโฆษณาได้เยอะที่ขึ้น เพราะลงใน website ที่เป็น partner กับ google แต่เราจะเสียเงินเยอะขึ้นด้วย
จากนั้นเลือก location คือประเทศที่เราจะแสดงแคมเปญของเรา และภาษาที่ใช้ด้วย ซึ่งกันเหนียวเลือกไทยกับอังกฤษเลยจ้า
Bid strategy เลือก manual CPC เพราะว่าเราเพิ่งทำครั้งแรก ยังไม่รู้ว่าใช้ตังค์ทั้งหมดเท่าไหร่
ถ้ามีการใช้โลเคชั่น เบอรโที ใส่ด้านล่างก่อน ถ้าเรียบร้อยคลิกปุ่มด้านล่างเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป คือการสร้าง ad group ซึ่ง 1 แคมเปญ มีได้หลาย ad group นะ ใส่จำนวนเงินที่เราจะ bid จากนั้นใส่หน้าเว็บที่เราจะโปรโมต เพื่อค้นหา keyword ที่เกี่ยวข้อง พร้อมแสดง volume ออกมาว่า คำค้นนี้ถูกค้นหากี่ครั้งต่อเดือน
จากนั้นมาสร้างโฆษณากันเถอะ ก่อนเบรกพี่เซียร์ได้ฝากให้พวกเราคิดคำที่เอามาใส่ ขั้นตอนนี้ใส่ได้เลยคะ ซึ่งด้านขวาจะแสดงว่าจะเราใส่คำใส่อะไรลงไป หน้าเว็บแสดงผลแบบนี้นะ บนมือถือแสดงผลแบบนี้นะ
headline 1 และ 2 ใส่ไปไม่เกิน 30 ตัวอักษร และคำบรรยายใส่ไปไม่เกิน 80 ตัวอักษรนะ
ส่วน final url กับ path มีกิมมิคเล็กน้อย ตามเคสด้านบน คือใส่ไรก็ได้ ไม่มีผลต่อ url จริงที่เปิดหลังจากกด ads นะ ซึ่งจะอธิบายด้านล่างอีกที
กด Create ad ปุ๊ป เราสร้าง ad group เสร็จแล้วหนึ่งอัน พร้อมใช้จริง
กด review campaign เพื่อดูก่อนลงโฆษณาจริง ของเราใช้ budget สูงทีเดียว
เรายังไม่ปล่อย ads ลงไป กด ... save & pause จ้าา แต่ถ้าพร้อมแล้วกด publish ที่ปุ่มนํ้าเงินเลยจ้า
สุดท้ายก็มาหน้านี้เนอะ ถ้าจะสร้างอีกปุ่มแดงโล้ดด
มีข้อแนะนำซักถามจากคุณกันต์ ตอบด้วยพี่เซียร์ สรุปมาดังนี้
- adwords เปรียบเสมือนพริ๊ตตี้ขายรถ ดึงให้ช่างภาพมาถ่าย เอ้ยยยย ดึงให้ลูกค้ามาดูรถ ถ้าดูรถแล้วเฉยๆ ยังไม่โดนใจเท่าพริ๊ตตี้ ก็เดินออก เท่ากับว่ามี bounce rate
- แล้วเราจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามาซื้อเรา มี tool อะไรหรือเปล่า คำตอบคือ ตัว adwords ก็ track ได้แค่ตอนที่เราลง ads ลูกค้าจะเจอเรา ต่อเมื่อเขาค้นหา keyword ที่เรา bid มา แต่ตอนลูกค้าเขามาซื้อของเว็บเรา ก็ไม่ใช่หน้าที่ adwords หล่ะ อาจจะใช้ google analysis ในการดู event ต่างๆที่เกิดขึ้นในเว็บเราได้ (บล็อกเรามี google analysis ให้อยู่แล้ว เนื่องจากตัว blogger เป็น product นึงของ google)
- เราต้องคิดว่า ทำอย่างไรทำให้คนเดิมเขามาที่เว็บเรา แต่เราจ่ายเงินถูกลง อาจจะเชื่อมหลายๆ platform เช่น facebook slideshare ซึ่ง facebook จะมีปุ่ม like ให้กดติดตามข่าวจากเพจเราอยู่แล้ว
- ควรทำเว็บไชต์ให้เรียบร้อยก่อน ไม่ว่าจะเป็นความสวยงาม ระบบหลังบ้าน ก่อนที่จะทำ adwords ซึ่งเราเห็นด้วยนะ เพราะนอกจากจะไม่ต้องเสียเงินฟรีๆตอนที่เว็บไม่เสร็จดี คนเข้าหาก็ตูคลิกไรหว่า เขาก็จะได้รู้ว่าเว็บไชต์เราขาย product หรือมี content อะไร
- เว็บเราควรจบ solution ในเว็บเดียวให้ได้ เช่น จบตรงสั่งซื้อของหน้าเว็บ
- การ sign-in หรือ subscription เป็นการที่ลูกค้า action เอง เป็นการเก็บข้อมูลลูกค้าโดยที่เขารู้ตัว แต่ถ้าเขาไม่รู้ตัวจะเป็นการ tracking หลังบ้านไว้ ซึ่งเราจะรู้แค่ว่า คนนี้เพศอะไร ชอบอะไร เราจะไม่รู้ชื่อแซ่เขา
- ระหว่าง B2C B2G B2G อันไหนควรทำ adwords ดี
สรุป B2G G คือภาครัฐ ไม่น่าทำ เพราะคงไปไม่ถึงเขา ส่วน B2B เน้นคำเฉพาะหน่อย และ B2C มีอะไรให้เล่นได้เยอะแยะ
มีการทำ ads ให้ดูจริงๆ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของพี่สิริ หรือพี่กล้วยของเรานั่นเอง
- ตัวอย่าง keyword ที่ใช้ เช่น กล้วยบด banana syrups ผลิตภัณฑ์กล้วย กินกล้วยไม่ต้องปอกเปลือก อาหารเด็กอ่อน วัตถุดิบอาหารแปรรูป
- เว็บไซต์ผลิตภัณฑ์กล้วยพี่สิริ www.banana-tai-tai.com
- คำถามเชิงลบคือ keyword ที่ไม่ต้องการให้เจอ เช่น โรงพยาบาลนี้ไม่ได้รักษากระดูก ก็จะใส่ รักษากระดูกเข้าไป แต่ในเคสนี้มีคำว่ากล้วยบดโผล่เข้ามาเฉย แสดงว่าก่อนหน้านี้เคยมีการใช้คำนี้ไปแล้ว ประมาณนั้น
- จากนั้นก็มา get idea พบว่า keyword ที่ใส่ การค้นหาโดยเฉลี่ยค่อนข้างน้อยอยู่ เลยจะใช้คำอื่นๆที่ใช้ adwords เสนอมา ดูค่อนข้างยากเลยทีเดียว พี่เซียร์เลือก
- ของพี่สิริคือโทรมาสั่ง อาจจะใส่เบอร์โทรเพื่อโทรเข้ามาสั่งของเลย
- สร้างแคมเปญกันเถอะ ชื่อกล้วยบด กดไปตามขั้นตอน ส่งทั่วไทย เลือกภาษาอังกฤษเพิ่มด้วย เพราะเรื่อง keyword
- ใช้ manual CPC เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่า keyword เท่านี้ ใช้เงินเท่าไหร่
- ราคาเริ่มต้น 5 บาท จากคำที่เราสนใจ bid และพี่สิริมีงบ 3000 บาทต่อเดือน ดังนั้นเฉลี่ยวันละ 100 บาท
- ส่วนขยาย เพิ่มเบอร์โทรศัพท์ สำหรับโทรมาสั่งซื้อของ อยู่ตรงด้านล่างสุดเลย
- ตัว ads จริง ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่หมดเพื่อความน่าสนใจ และดูโดดเด่น โดดเด้ง ตัวเส้นทางอาจจะใส่คำไปมั่วๆได้ เพราะเป็น display เฉยๆ ความเป็นจริงจะเข้า url หลัก คือที่เรา set ไว้ที่หน้า landing page นั่นเอง
- ตรวจสอบและตรวจทานสักนิด จ่ายวันละบาทเท่านั้น ดูตรงค่าประมาณรายวัน
- adwords เก็บเงินรายเดือน หรือครบทุก 2000 บาท
- กดบันทึกและสิ้นสุด เพื่อนำ ads ที่เราสร้างนั้น มาเป็น public ถึงสถานะ พร้อมทำงาน เดี๋ยวรอเขา approve ก่อน ซึ่งจะแจ้งทางหน้าเว็บ และที่ gmail ถ้าเราเปลี่ยนงี้ ต้องรอเขา approve ใหม่ จะเสียเวลา เหมือนใน play store ถ้าเรามีการเปลี่ยนแปลงอะไรตอน publish application ของเรา แอปเราจะขึ้น play store ช้า
ถ้ามีกรณี spam click จะไม่นับ ซึ่งทาง google จะดูว่า IP นี้ คลิกซํ้าๆ หรือดูระยะห่าง อาจจะนับเป็นคลิกครั้งเดียว
ถ้าโปรโมตแอป ใช้ universal app campaign ซึ่งเราจะมาลองทำและมาเล่าอีกทีหลังเนอะ
ทิ้งท้ายด้วยบัญชี MCC คือบัญชีที่เอเจนซี่ใช้ ซึ่งตัวหน้าแคมเปญก็จะเป็น account ของลูกค้าแทน
ทางพี่ๆจาก NIA มีของมาแจก คือไดอารี่จากทาง NIA เป็นของขวัญปีใหม่ และชักภาพที่ระลึกกันดังนี้
ปิดท้ายด้วยพี่สิริ ซึ่งรายงานผลการลงโฆษณาในช่วงดึก ดังนี้
และตอนเช้าเราก็เข้า google ลองหาในมือถือ เจอดังนี้ ซึ่งลิ้งค์ที่เราเข้าไป ไม่ใช่บนหน้า adwords นะ แต่เป็นหน้าหลักของเว็บไซต์ ที่พิมพ์ไว้นั่นเอง
ตอนนี้เราคิดว่า ก่อนที่จะใช้ adwords มาโปรโมตแอปเรา เราต้องทำแอปให้เรียบร้อยก่อนเนอะ ไหนจะ content ของบล็อกอีก งั้นขอตัวไปปั่นงานก่อนนะคะ สวัสดีคะ
ถ้าอยากศึกษา adwords เพิ่มเติม ทาง google ใจดีบอกแหล่งศึกษา ดังนี้
วันดีคืนดีจะมีผู้เชี่ยวชาญ google adwords มา hangout ให้ฟัง หรือไม่ก็สอนเป็นขั้นเป็นตอนเลย ถ้าอยากฟังภาษาอังกฤษก็ได้เลยจ้าเลยจ้าาาา
Google academy for ads จริงๆมีสอนหลายอย่างเลยนะ สอนเขียนโปรแกรมก็มี
https://academy.exceedlms.com/student/catalog?_ga=1.153971184.930997880.1481858611
เขามีให้เราไปสอบ cerf ของ google adwords ด้วยนะ สำหรับเอเจนซี่เลย เราต้องเป็น google partner ก่อนเลย