เปลี่ยนหมุดท่องโลกอินเตอร์เน็ตด้วย VPN
บางคนอาจจะงง ว่ามุด VPN คืออะไร? VPN คืออะไร? ต้องทำยังไง? บล็อกนี้มีคำตอบจ้า
เนื่องจากเราจะเห็นตามข่าวที่มีบางเว็บไซต์ถูกบล็อกในประเทศไทย เลยต้องมุด VPN เข้าไป หรือสำหรับคนที่อยู่ต่างประเทศ แต่อยากดูซีรีย์ในบ้านเรา หรือเราอยากเข้าไปสมัคร platform video streaming แต่ยังไม่เปิดในไทย ก็ต้องมุดไปสมัครหรือมุดไปดู
VPN คืออะไร?
VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network คือ การสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตส่วนตัวแบบเสมือนจริง มีการป้องกันข้อมูลรั่วไหล หรือถูกเข้าถึงโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่มีอยู่ในต่างประเทศ ที่ให้บริการเฉพาะในประเทศนั้นๆ หรือถูกบล็อกในประเทศได้
ใน VPN บางประเภทนั้นจะไม่เก็บข้อมูล (Log) ประวัติการใช้งานแบบการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป และปกปิดเลข IP ส่วนตัวได้ ทำให้การใช้งาน VPN มีความปลอดภัยและเป็นอิสระมากกว่า
VPN จริงๆมีหลายประเภทให้ใช้ แต่แบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดก็คือแบบ Point-to-Point Tunneling Protocol (PPTP VPN) ซึ่งใช้หลักการสร้างอุโมงค์และจับข้อมูล และใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย VPN ใช้งานด้วยการ Login Account ที่สมัครไว้กับบริการ VPN แต่ละแห่งนั่นเอง
VPN ทำอะไรได้บ้าง?
- เบื้องต้นใช้ในการท่องอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย แบบไม่ระบุตัวตนของเรา
- ใช้เป็นช่องทางในการเข้าใช้แอพพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ต่างๆที่ถูกปิดกั้นในประเทศนั้นๆ เป็นการ unblock website เนอะ
- ใช้เป็นช่องทางในการดู content ที่ฉายเฉพาะในประเทศนั้นๆ เนื่องจากเหตุผลทางลิขสิทธิ์ หรือตัว platform ยังไม่เข้าประเทศของเรา เช่น Disney+
- เข้าไปใช้เครือข่ายของมหาวิทยาลัยหรือบริษัทได้ เมื่ออยู่ที่บ้าน ผ่าน VPN เหมาะกับช่วง work from home ในบางบริษัทเนอะ
- ของเราเองก็แอบบอกว่าเคยใช้ทดสอบการทำงานของแอพพลิเคชันที่เราทำ ใน location ต่างๆด้วยหล่ะว่าแสดงผลถูกไหม เพราะในประเทศอื่นๆจะไม่ได้ feature นี้
ข้อดีของการใช้ VPN
ทำให้การท่องอินเทอร์เน็ตของเราปลอดภัยมากขึ้น และได้เข้าถึง website ต่างๆที่ถูกบล็อกในประเทศ หรือข้ามไปดู content ในประเทศนั้นๆได้
ทดลองใช้ VPN
ในที่นี้เราจะใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า BullVPN ถ้าใครเป็น 9ทุน อยู่จะคุ้นๆในอะในไลฟ์ Twitch ของนายอาร์มเนอะ ที่เลือกตัวนี้เพราะว่า
- มี server ตั้งในไทยมากที่สุด
- มีให้เลือกถึง 21 ประเทศ โซนเอเชียที่ชอบใช้และในแอพนี้มีคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แล้วก็สหรัฐอเมริกา
- มี server สำหรับ video streaming ต่างๆโดยเฉพาะ จะขึ้นชื่อเลยว่าใช้กับ Disney+ นะ ใช้กับ Netflix นะ
- รองรับหลาย platform มีให้ลงเป็นแอพพลิเคชั่นบน iOS และ Android, ลงเป็นโปรแกรม desktop สำหรับ Windows และ Mac ได้ แล้วมี chrome extension ด้วย
ในที่นี้เราจะรีวิวการสมัครและการใช้งานสำหรับแอพพลิเคชั่นบน Android และ iOS กันจ้า
สมัครสมาชิก
หลังจากดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาแล้ว ให้เข้าไปที่แอพ แล้วกด Create Account ใส่ username และ password
จากนั้นเราจะได้อีเมลล์ยืนยัน
เมื่อเรายืนยันอีเมลล์แล้วสามารถทดลองใช้งานได้ทันที
ทดลองต่อ BullVPN
เราจะทดสอบกับทั้ง Android และ iOS โดยจะเริ่มจาก Android ก่อนเนอะ
เปิดแอพพลิเคชั่น BullVPN ขึ้นมา จากนั้นเลือก localtion ที่รูปโลก และกดเลือกที่ที่เราต้องการต่อ โดยตัวที่เป็นทงกุฏสีทองนั้นจะเฉพาะแบบ premium เท่านั้นนะ จากนั้นกดเชื่อมต่อที่ไอคอนสวิตซ์ เท่านี้ก็เชื่อมต่อ VPN เรียบร้อยแล้วหล่ะ
ถ้าเราต่อครั้งแรกจะมี popup ขอ connection permission ด้วยนะ
เมื่อเชื่อมต่อเสร็จแล้วจะมีรูปกุณแจอยู่มุมขวาบนเนอะ เลื่อนลงมาดูจะมี notification status ของ VPN ที่เราต่อ
สำหรับ iOS ก็จะเหมือนกันเลย ต่อเสร็จก็จะมีคำว่า VPN อยู่มุมขวาบนเช่นเดียวกัน
Use Case การใช้งานจริง
เราจะลองเล่นให้ดู 2 แอพพลิเคชั่นด้วยกัน
อย่างแรกเลยคือ ZEPETO เป็นแอพพลิเคชั่นที่สร้างตัวเราเป็น avatar 3 มิติ ที่บางครั้งจะมีเสื้อผ้าให้แต่งตัวขายเฉพาะในเกาหลีเท่านั้น เลยต้องมุดไปซื้อ บางคนที่ไม่ทราบวิธีนี้ก็จะงงๆว่าไปซื้อได้อย่างไร
ปัญหาที่เคยเจอสำหรับ ZEPETO เมื่อเข้า VPN เจ้าอื่นคือ เข้าหน้าแอพคือหน่วงมากก พอโหลดตัวเสื้อผ้าก็ต้องรอโหลดรูปนาน แล้วแอพมันกระตุกด้วยนะ แต่เมื่อใช้ BullVPN แล้วพบว่า เหมือนไม่ได้ต่อ VPN เลยจ้า ตัวเสื้อผ้าในร้านโหลดแปปเดียวเสร็จเลย ไม่อืดไม่กระตุกเหมือนต่อ VPN ตัวอื่นเลยหล่ะ
ส่วนการเข้าไปเล่นใน ZEPETO World พบว่าภาพมันสมูทมาก เล่นได้ลื่นๆ ลดแลคลดปิงกันเลยทีเดียว เหมาะกับการเล่นเกมส์เลยนะ เมื่อมุดไปเล่นในประเทศอื่นๆ
สำหรับการใช้งานสามารถดูคลิปการใช้งานได้ที่นี่จ้า ซึ่งในคลิปอันนี้เป็นแบบ trial เนอะ จะกดได้แต่มงกุฏสีเทาเท่านั้น ในคลิปมีเข้าไปดู Netflix และเล่น ZEPETO จ้า
ต่อมาคือ Netflix เราคิดว่าแต่ละประเทศจะมี content ที่ได้ลิขสิทธิ์มาฉายใน Netflix ไม่เหมือนกัน ทดสอบการใช้งานกันเลยจ้า
เราจะลองใช้งานกัน 2 แบบ คือ เลือกต่อ VPN ไปสหรัฐอเมริกา
เมื่อต่อ VPN เสร็จแล้วลองเข้าไปดู Netflix จะเห็นว่าจำนวนเรื่องที่เรากำลังดูอยู่ลดลงไปหลายเรื่อง เนื่องด้วยเรื่องลิขสิทธิ์อะเนอะ ตัวรูปมีการโหลดนิดนึงแต่แสดงผลได้เร็วมากเลยนะ นี่ขนาดต่อ VPN นะ ตัวแอพยังลื่นอยู่ไม่หน่วงเลย
และแบบต่อมา เราจะต่อแบบ premium โดยเราจะเลือก server สำหรับต่อ Netflix ที่ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ บอกเลยว่าพีคมากกกกก ถือเป็นขุมทรัพย์เลยก็ว่าได้นะ แบบพวก Anime คือเยอะมากกว่าที่ไทย แบบชินจัง เดอะมูฟวี่มีทุกภาคเลยมั้ง มีมารูโกะ คิตตี้ มากมาย แถมตัวซีรีส์เนี่ยปกญี่ปุ่นก็สวยดีไปอีกแบบเนอะ
เราเลยทดลองเลือกดูเรื่องนึง จะประมาณในคลิปนี้เนอะ
เอาบรรยากาศมาให้ดูดีกว่าว่าในนั้นเจออะไรบ้าง
อย่างแรก เจอ parasite ภาพขาวดำใน Netflix จ้า ในอื่นไม่มี ฮืออออออ
ลองหาหนังที่ไม่มีใน Netfilx ไทยหล่ะ อ่ะ Meangirls แล้วกัน ประกฏว่ามีจ้า และที่พีคไปกว่านั้นคือมีพากย์ไทยจ้า ใน Netflix ญี่ปุ่นนี่แหละ เราเลยกดดูจนจบเลยจ้า
เหมือนนั่งดูในไทยปกติเลย ลื่นสุดๆ ไม่มีหน่วงไม่มีค้าง ดูเพลินจนจบเลยจ้า
สรุปการใช้งาน BullVPN ใช้แล้วดีเนอะ มันลื่นปี๊ดๆ แถมลดแลคลดปิง ทำให้การดูหนัง เล่นเกมส์ สมูทเหมือนไม่ได้ต่อ VPN เลยจ้า แถมไม่มีโฆษณาหรืออะไรมากวนใจเราด้วยหล่ะ
ส่วนเรื่องราคา BullVPN ราคาเป็น package ตามนี้เลย
- 7 วัน 50 บาท
- 15 วัน 90 บาท
- 1 เดือน 150 บาท
- 3 เดือน 430 บาท
- 6 เดือน 800 บาท
- 1 ปี 1400 บาท
สามารถชำระได้หลายช่องทาง ขอแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก
- ช่องทางอัตโนมัติ เช่น บัตรเครดิต/บัตรเดบิต, internet banking, WR Code, PayPal, True Money เมื่อชำระเงินแล้วจะได้รับวันใช้งานทันที
- ส่วน True Wallet และ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร จะต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลก่อนนะ ถึงจะได้รับวันใช้งานจาก package ที่เราซื้อไป
ช่องทางการติดต่อจ้า
- อีเมล: [email protected]
- Facebook: https://www.facebook.com/bullvpn
- @LINE : https://line.me/ti/p/~@bullvpn
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูที่ website เข้าได้ที่
อ่านแล้วอยากลองใช้สมัครได้ที่ลิ้งด้านล่างเลยจ้า
สุดท้ายหวังว่าทุกคนน่าจะเข้าใจถึงและมุด VPN เป็นกันมากขึ้นเนอะ :D