ตั้งแต่ mint เจ้าลิง Apetimism มา ก็ไม่เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มากิจกรรม IRL ของทาง Apetimism ในวาระครบขวบ มี session จากพี่เนย และ special guess อย่างคุณโอ้ต Oppa Bear และคุณวิว Pony Cat ด้วย พร้อมของรางวัลที่ทุกคนต้องมีกลับบ้านไป

งาน Apetimism 1st Anniversary จัดขึ้นที่ Palette Art space ซึ่งเดินทางง่ายมาก ลง BTS ทองหล่อ ทางออก 3 แล้วเดินเข้าร้านมาเลย แล้วก็ขึ้นไปลงทะเบียนที่ชั้น 4 เดินขึ้นไปเหนื่อยมาก 5555555

งานนี้สำหรับ holder นะ สามารถพาผู้ติดตามมาได้ โดยถือน้องลิง 1 ตัว ได้รับสิทธิ์เข้างาน 2 คนงี้ ซึ่งทราบข่าวตอนงานมีทย่อม ๆ ที่ร้านแม่ปิงนี่แหละ นาน ๆ เราจะได้เจอพี่เนยที บวกกับเพื่อน ๆ ไปกันด้วย ก็เลยลงทะเบียนไปเลยจ้า

ซึ่ง Apetimism ทั้ง 3999 ตัวนั้น ได้ถือกำเนิดบนโลกในวันที่ 4 มิถุนายน 2565 บนเชน Optimism ของเราได้ลิงผู้หญิงมาสองตัวด้วยกัน ดูแลมาจนถึงปัจจุบัน และแน่นอน ลืมพาน้องถ่ายรูปในงานเฉ้ยยยย

มีหมอนแจกให้ holder ที่ร่วมกิจกรรมถ่ายรูป check-in ในงาน

หมอนที่ได้งับ แต่ละคนเอามากอดกันเยอะแยะเลย

ก่อนงานเริ่มมีการแนะนำทีมงานก่อนด้วย ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นงานแรกของ Apetimism ที่มาเลยแหละ

นอกจากจะเจอคนที่เจอตามงาน IRL ประจำ ๆ อย่างอาจารย์ไซ คุณโบ้ ผู้เป็นขาประจำแล้ว ยังมีแจ็ค อาร์ต น้อง ๆ ในแก๊งค์ แล้วก็มีคุณแมน สบตา คุณหนึ่ง ลุงลีก็มา แล้วก็อีกหลาย ๆ คน และได้เจอจารย์ดิวเป็นครั้งแรกด้วย

special session จากพี่เนย

เริ่มต้นด้วย special session จากพี่เนย ว่าการทำโปรเจกต์ NFT มา 1 ปีนี้ มีอะไรที่ได้เรียนรู้ระหว่างทางบ้าง

Apetimism เริ่มต้นจากการทดลองของพี่เนย ในเรื่อง NFT ว่ามันมีมูลค่าแค่ไหนยังไง จนมาถึงการสร้าง business model ที่สร้างรายได้ด้วยตัวเองได้

What have we done so far

products

• Apetimism Launchpad: มี 64000 projects ที่ใช้ และ support 10-20 chain ด้วยกัน รายได้ 250,000 บาท
• Zonic: NFT Marketplace for L2 เน้น global support 5 mainnet และ testnet มากมาย ที่ traffic เยอะแบบงง ๆ หาสาเหตุไม่ได้ คือ Polygon zkEVM
• NFT Nest กำลังขึ้นอย่างจริงจัง เป็นเว็บข่าว ไม่สิเรียกว่าเป็น exclusive content สำหรับ holder ของ NFT peoject นั้น ๆ โดยการ index ข้อมูลจาก NFT ทั่วโลกขึ้นมา อันนี้เป็น private ยังไม่เห็นหน้าตานะ

ในตอนเสนอนักลงทุนนั้น ในส่วนของ launchpad และ marketplace จะเป็น product ที่มีเจ้าอื่นเล่นในตลาดอยู่แล้ว ส่วนตัว NFT Nest ถือว่าเป็นตัว top ในตลาด

Activities

เริ่มกลับมา run activity บน Discord มากขึ้น

Character Collab

ทำ character มาต่อยอดกับ brand ต่าง ๆ เช่น ของทางไปรษณีย์ไทย, morning moon

Exclusive Content

อันนี้ทางเราไม่ค่อยได้ไปอ่าน แหะ ๆ

L2Husky : Everything about L2

Take Your Crypto to the Next Level with Layer-2: Explore, Learn, and Grow with Us!

New NFT giveaway

มีคอลเดียวที่ขายคือ Apetimism นี่แหละ ส่วนอันใหม่แจกฟรี ก็จะมี just banana ที่กดรับกัน, apebitrum กดฟรีบน arbitrum แล้วล่าสุด น้องลิง Baby Apes ชุดชมพูสุดน่ารัก บน zkPolygon อันนี้ใครเป็น holder Apetimism ไม่ต้องทำอะไรเลย เขาจะ airdrop น้องมาให้เลย

$ARB claim and stats portal

ก็ขอบคุณพี่เนยที่ทำให้พวกเราได้เคลม Arbitrum นะฮับ วันนั้นเราตื่นเต้นกันมาก เพราะเราได้ airdrop ของ Arbitrum กันเยอะมาก ๆ เลย

Arbitrum Airdrop Portal | Zonic : NFT Marketplace for L2

Experience lightning fast trades with our cutting-edge NFT marketplace

Zonic

Linea Campaign

เป็น campeign บน testnet ซึ่งทางเราไม่ได้ทำ ลืม แง ตัว Linea ถ้าจำไม่ผิดเป็นอีกทีมของ Metamask นะ

อนาคตมี art toy แล้วก็มีการเปลี่ยน product เป็นบริษัท start-up จดที่ต่างประเทศนะ

สิ่งที่ได้เรียนรู้ใน 1 ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับ NFT

ส่วนใหญ่เรียนรู้ NFT ด้าน negative หมดเลย ไม่ใช่แย่ทั้งหมด รู้และทำให้มันดี

1) NFT is not about art at all: pure art จ๋า ๆ ขายไม่ได้ เขาสนใจความ hype มากกว่า

2) ถ้าสร้างความ hype ได้ มันก็เกิดได้นะ โดย pump & dump เกิดมาแล้วก็หายไป

3) NFT มีมูลค่า เพราะวัดมูลค่าไม่ได้ เหมือนพระเครื่อง ที่มีมูลค่าสูงมาก และในบางทีก็เหลือ 0 บาทได้ ดังนั้นการมี utility ทำให้โปรเจกต์มีมูลค่าได้ เช่นของสบตา ที่ holder สามารถใช้ NFT เป็นส่วนลดร้านกาแฟ และประกันต่าง ๆ

4) NFT อยู่ใน form ของ bubble คือมีการซื้อมาขายไปจนระเบิด และแตกตกลงมางี้

5) NFT ไม่ใช่ product แต่เป็น marketing resource เช่น เอา Bored Ape แปะลงฉลากสินค้า เพื่อขาย product หรือแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Nike หรือ Adidas ที่เราเองเห็นชัดเจนจาก collection Blue Indigo

6) คนซื้อ NFT เพื่อล่า airdrop ประมาณ 99% ส่วนที่เหลือเก็งกำไร ซึ่งเราสามารถสร้าง value มาจากทางอื่นได้

7) สุดท้าย NFT เป็นอะไรที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง โดยการเป็น brand ที่สร้างธุรกิจต่อยอดจาก NFT แต่ยังไม่ 100% ที่เริ่มมาแนวทางนี้ คือ bored ape, doodle

8) keyword สำคัญ เราจะต้องสร้าง brand ที่สามารถสร้าง status ได้ อย่าง supreme ซื้อแล้วเอามาอวดคนในสังคมได้

9) community สำคัญกับ brand ทำให้ brand แข็งแกร่งขึ้น เราต้องตอบคำถามก่อนว่า เราสร้าง community นี้เพื่ออะไร และปลายทางสุดท้ายจะเป็นอะไร

10) ในวันนี้ยังไม่เกิดการซื้อขายงาน art ที่แท้จริง ต้องรอ bubble นี้แตกก่อน ถึงจะเป็นในแนวทางนี้ได้ในอนาคต

Goal: ทำให้ business สำเร็จได้ โดยใช้ NFT เป็น media ในการสร้าง business

โดย business = buying + selling ต้องมี demand เข้าทฤษฎี Maslow ซึ่งเขาจะแบ่งประเภทธุรกิจประมาณนี้

แต่พี่เนยแบ่งประเภทธุรกิจแบบนี้

• ปัจจัย 4: เกิดจากการอุปโภค บริโภค ดำรงชีวิต เช่น ร้านอาหาร
• บาป 7 ประการ: เช่น social network ต่าง ๆ
• เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการ เช่น นั่งดู YouTube เพื่อการ entertain, ลง course เพื่อศึกษาความรู้ต่าง ๆ เพื่อตัวเอง เพื่อให้เอาวิชามาใช้เพื่อให้เรามีข้าวกิน

ตลาดคริปโต เป็น pure greed เป็นตลาดที่ค่อนข้างอันตราย เกิดจากการไม่มี demand ที่แท้จริง ซึ่ง NFT drive ด้วยอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากความโลภ

• คนถือ NFT ไม่ใช่ shareholder ไม่สามารถตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดได้
• เกิดภาพ utility โดยการเอาไปใช้เป็นคูปอง บัตรส่วนลด เป็น marketing tool
• problem ถูกแก้โดย demand ที่แท้จริง เช่น art toy
• ทำให้คนซื้อหยุดที่จะขายต่อได้ คือ consumable (ใช้แล้วหมดไป) & collectible (เก็บสะสมได้)

NFT Next Generation จะถูก adopt เป็น proof of partnership

• real world asset (RWA) ผูก NFT กับโลกจริง และสร้าง productivity เช่น ขายไวน์ บ่มยังไม่เสร็จ ก็เอาสิทธิไปขายก่อนได้ หรือคอนโดย่านทองหล่อที่หนึ่ง แบ่งห้องเป็น NFT ย่อย ๆ แล้วเอาไปปล่อยเช่าได้
• เรื่อง GameFi ไม่สิ พี่เนยไม่ได้พูดคำนี้ เรื่อง game item ในปีหน้า จะเป็น play-to-earn ที่มีความ entertainment ที่ drive ด้วยความสุข และความสนุก
• NFT มาในรูปแบบ marketing tool

ในโลก Crypto จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง

แบบไปแบบไว ๆ เพราะเวลาไม่พอแล้ว

• CBDC หรือธนาคารกลางของสหรัฐ เป็นเทรนของรัฐบาล ผลักดันตลาดในแง่ regulation เช่น กำกับดูแล binance, FTX แตก
• 90% ของ altcoin ตายไปเมื่อ CBDC settle
• layer 2 war เชน layer 2 ต่าง ๆ กว่าจะเสร็จประมาณ 1 - 2 ปี ทุกแบรนด์ผุด layer 2 เป็นของตัวเอง เช่นร้าน starbuck งี้ ซึ่งตอนแรกมันจะมีเยอะมาก ๆๆๆ หน่อย พอมันเข้าที่จำนวนจะน้อยลง เช่น เชนนี้สำหรับร้านกาแฟ เชนนี้เอาไว้ทำ NFT นะ

• multichain จะเริ่มมา ที่น่าจับตามอง มี Layerzero กับ ZetaChain
• recession จะเกิดใน Q3 - Q4 ของสหรัฐอเมริกา ในปีนี้

• currency war - BRICS สกุลเงินที่ถูก backup ด้วยทองคำ ทำให้สมดุลของสกุลเงินจะเปลี่ยนไป กระทบการคริปโตด้วย
• AI ทำให้เกิดการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 มีการ replace งาน โดยไม่มีตำแหน่งงานเพิ่ม ทำให้คนเริ่มตกงาน หรือหางานได้ยากขึ้น
• Machine Learning ขนาด model เล็กลงจนสามารถ run บนมือถือ และในคอมได้ (นึกถึง TensorFlow Lite เลย https://www.tensorflow.org/lite)
• พวก RPA กำลังมา ที่เห็นในชีวิตประจำวัน คือ ตู้เต่าบินเนอะ (ที่ตึกเรามีทำตู้ขายแบบนี้อยู่ มีตู้ขายนํ้า ตู้ขายของ 7-11 ตู้ขายของโลตัส ตู้พวกนี้จ่ายด้วย TrueMoney ได้) หรือตู้สั่งราเมงที่ญี่ปุ่น เป็นการลดงานคน และเราเอาตัวรอดยังไง ในอีก 2 ปี คนจะตกงานเพราะ AI
• AR VR MR ใด ๆ ไม่ได้ไปต่อ ถึงจะมี Apple Vision ลงมาเล่นก็ตาม (ส่วนตัวคิดว่าไม่ต่างจาก Google Glass ในตอนนั้น) แล้ววงการหนังผู้ใหญ่เอามาเล่นก่อนตลอด
• metaverse ไม่รอดในตอนนี้ บัย

ช่วง Q & A ลงไปเอาชาเขียวไม่หวานมางับ เติมคาเฟอีนหน่อย

Key Takeaway with Special Guess

ในงานมีแขกรับเชิญ 2 ท่าน คือคุณโอ้ต Oppa Bear และคุณวิว Pony Cat ทางเราเป็น holder ทั้ง 2 โปรเจกต์นี้ และพอรู้อะไรคร่าว ๆ มาบ้างแล้ว เลยจดไม่ค่อยเยอะ แหะ ๆ เลยขอเจาะเป็นรายคนเลยดีกว่า

คุณวิว Pony Cat

• เส้นทางการทำ NFT เกิดจากวันนึงที่คุณวิวทำงานหนักจนล้มป่วยในระดับเกือบตาย ก็เลยมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักมาตลอด แต่ไม่ได้ทำมันเต็มตัว ก็คือการวาดภาพนั่นเอง
• เพิ่งรู้ว่าคุณวิวจบบริหารธุรกิจมาด้วย
• จาก NFT น้องแมวตาสองสี ที่เป็น 2D พัฒนามาเป็น product 3D ที่จับต้องได้ คือ art toy นั่นเอง เมื่อขายได้จะมีปันผลให้กับเจ้าของ NFT
• ตัว art toy ทำจากเรซิ่น ต้นทุนแพงตรงที่ถ้าทำออกมาไม่ดี มันหลอมกลับไปไม่ได้ ต้องทิ้งเลย
• แน่นอนต้นทุนของ art toy ค่อนข้างสูง ทำไมไม่ทำเป็น pre-order ล่ะ? เพราะว่าคุณวิวไม่อยากขายฝัน อยากให้เห็นของก่อนว่าเจ้า art toy มันเป็นแบบนี้นะ และทำออกมาไม่เยอะด้วย อันที่เพ้นท์เองจะเป็นอันที่ประมูลเท่านั้น แล้วก็มีให้ศิลปินท่านอื่น ๆ เพ้นท์ด้วย
• ล่าสุด art toy ของ Pony Cat ได้ไปที่ New York แล้วนะ ไปกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) น้องอยู่ใน multi-brand pop up store ที่ SoHo นะ

• ทำยังไงให้คนตัวเล็กเติบโตในตลาดได้? ค่อนข้างยาก อาจจะทำได้โดย character + story ที่ชัดเจน สร้าง awareness ให้คนอื่นรู้จักเรา และให้นักสะสมเปิดใจกับผลงานของเรา

คุณโอ้ต Oppa Bear

• อันนี้เราเองย้อนเหตุการณ์ไปปีที่แล้ว หลาย ๆ คนคงเคยเห็นซุปเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีเจ้าหนึ่ง มาใช้ NFT กับธุรกิจของเขา ตอนนั้นชื่อโปรเจกต์ NFT ชื่อว่า Gangnum Tiger นะ เป็นพี่เสือ
• คุณโอ้ตมองว่าเอา NFT มาใช้ในธุรกิจในแง่บัตรส่วนลด มี case study ที่น่าสนใจ คือของทาง Lotus
• แต่เกิด conflict of interest เนื่องจากธุรกิจซุปเปอร์ที่ว่ามีผู้ถือหุ้นหลายคน สุดท้ายเลยแยกออกมาทำเอง เป็น Oppa Bear ในทุกวันนี้
• ในตอนนี้ของ Oppa Bear มีธุรกิจของโปรเจกต์ คือร้านหม่าล่าลิ้นชานั่นเอง ทางเราสนใจมากแต่ยังไม่ได้ลองเลย แหะ ๆ เปิดร้านมา 2 เดือน มีลูกค้าประมาณ 5000 คนล่ะ อันนี้เราสรุปคร่าว ๆ จากที่ไปฟัง AMA ล่าสุดของทางเรามาเนอะ

• แล้วก็มีร้านลื้อดูร้อน เป็นบุฟเฟต์หม่าล่า ย่าน town-in-town ที่ใกล้จะเปิดด้วย (ซึ่งจากการไปกินร้านอื่น ๆ มา พบว่า บุฟเฟ่ต์หม่าล่าดูจะเข้าทางเราสุดล่ะ เพราะหยิบแต่หมูรัว ๆ)
• เรื่อง community เรามีขึ้นเพื่ออะไร มีการกำหนด direction ของบริษัทด้วย และมี LINE group ของ holder ที่ถือมากกว่า 3 ตัวขึ้นไป ได้รู้ความเคลื่อนไหวของโปรเจกต์ก่อนใคร แล้วก็มีการ link กับมือใหม่ที่ทำ NFT ด้วยนะ
• มี partner กับ PTT OR ด้วย
• ส่วนใหญ่ใช้เงินตัวเองมากกว่าเงินในคอมมู สังเกตุว่าเงินฝั่งคอมมูแทบไม่ลดเลย เพราะความเกรงใจ ซึ่งของหลาย ๆ ชิ้นของทาง Oppa Bear ดูดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเก็ตบอร์ดมือ นาฬิกาที่มีน้องแถวนี้อวดตัลลอด และหมวกสีรุ้งสุดสวย แล้วต้นทุนต่อชิ้นค่อนข้างสูงด้วย

Activity

ทางทีมงานมี 3 กิจกรรมให้เล่นด้วยกัน รางวัลใหญ่คือลิงสบู่ ที่พี่เนยใช้ 3D printing ผลิต แล้วตะไบเองกับมือเลย มีจำนวน 20 ตัว ซึ่งทางเราไม่ได้น้องมา ฮือออออ

วิธีการรักษา อย่าเอาไปตากแดด เดี๋ยวมันเปราะง่าย แล้วก็ใช้สีอะคริลิคในการ paint ทำให้เก็บรักษาได้นานขึ้นนะ

Apetimism Quest

เนื่องจากชั้น 4 ที่จัดงาน เป็นการจัดแสดงงาน thesis ของน้อง ม.ศรีปทุม จำชื่อคณะไม่ได้แล้ว เกี่ยวกับการออกแบบมัลติมีเดียนี่แหละ เขาก็จะมีกระดาษมาให้เราหาคำตอบ เมื่อเรากรอกคำตอบที่ถูกต้องไป รอลุ้นลิงสบู่จากการ raffle

อันนี้แจกรางวัลหลังสุดเลย หน้าตาเป็นประมาณงี้

ความฮาตอน raffle คือคนชื่อเมย์ได้เยอะมาก พี่มินเมย์บอกว่าคนชื่อเมย์หน้าตาดี ซึ่งก็...จริง 555555555

Apetimism Quiz

ใช้ slido ในการเล่น ม้อดบอกว่าให้ถอดสมองเล่น 5555555

ตอนแรกก็ไม่รอดน้า หลัง ๆ เอ้ามีใส่คำถามสาระมาด้วย ไป ๆ มา ๆ ได้ที่ 8 เฉย ได้รับกระเป๋าของทาง Apetimism ไป บอกเลยว่าเป็นกระเป๋าผ้ามีซิปที่ใหญ่ที่สุดของโปรเจกต์ NFT ที่เคยได้รับมางับ พี่มินเมย์บอกว่าที่แจกกระเป๋าเพื่อเอามาใส่หมอน ทุกคนที่ได้กระเป๋าเลยแกะใส่หมอนกันหมดเลย 555

Apetimism Maze

อันนี้เป็นการเล่นเกมส์เขาวงกต แบ่งทีมละ 4 คนที่นั่งด้วยกัน ทางเราลากไม่ทันเสร็จ มีคนเสร็จก่อนแล้ว แงงงงงง อันนี้ทีมที่ชนะ จิตใจทำด้วยอัลไล ไวมากกก

Happy Birthday Apetimism

อันนี้ทางเราเซอร์ไพร์ส คือมีงานวันเกิดของ Apetimism มาเป็นแบบชั้นคัพเค้กเลย น้องลิงทุกตัวเกิดวันเดียวกัน และทุกคนก็ช่วยกันเลี้ยงดูน้องมาเนอะ

ตัวขนมครีมอร่อยมากเลย

งานและกิจกรรมรอบถัดไป ติดตามได้ที่ Discord นะ

Etc.

เรื่องราวอื่น ๆ ภายในงาน

• เมื่อลงทะเบียนเสร็จ ได้บัตรแลกเครื่องดื่มมา เราเลยสั่งชาเขียวเย็นไม่หวานไป ร้านนี้มี mintchoc ด้วย ใครจะลอง เชิญญญ ผมผ่าน
• เจอลุงลี ได้สติ๊กเกอร์เหรียญมาด้วย
• เจอจารย์ดิว ได้สติ๊กเกอร์จิ๊กซอว์มาด้วย
• ได้สติ๊กเกอร์น้องลิงจากคุณหนึ่งมาด้วย
• เจอคุณวิว อันนี้ได้ทักทายเป็นทางการล่ะ 555 ทุกคนได้ปฎิทินปีนี้ไป น้องโพนี่กระตุ่ย และทางเราได้ตัวรูป สติ๊กเกอร์ และก็ตัวรีด Pony Cat มาด้วย ตัวน้องจิ๋วงานเรซิ่นสวยมาก

• มีการพบปะคอมมู Oppa Bear คร่าว ๆ และชักภาพหมู่ที่ระลึกร่วมกันด้วย อิอิ
• ได้ 2-shot กับพี่เนย หลังจากติดตามมานานมากกกกก ได้คุยกันนิดหน่อยงับ

• พอถึงใกล้งานจบ อาจารย์ไซหาร้านใกล้งานเพื่อกินข้าวเย็นกัน ได้ร้านบะหมี่คนแซ่ลี ซึ่งเป็นร้านดัง พองานเลิกก็ไปที่ร้านกัน และก็แยกย้ายกลับบ้านกันไป

• เพราะแบบนี้เราเลยรู้สึกว่าไปงาน web3 มันไม่เหงา ไปแล้วเจอคนที่เราเจอบ่อย ๆ ของฝั่ง web2 มันเหงา ๆ แง

บล็อกก็จะประมาณนี้เนอะ

อันนี้แบบทวิตเตอร์ ที่ชาว web3 ลอยคอ เอ้ยยย รอคอยกัน

อ่ะหลาย ๆ คนคงสงสัย ทำไมทวิตของเรากลายเป็นร้านซีร็อก เกิดมาจากที่ Bittoon DAO ที่เราจดสรุปในทวิตเร็ว และก็หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงตอนสมัยเรียน ที่เอาที่เพื่อนจดไปซีร็อก แถมบางร้านซีร็อกที่เราเจอมา คือ มี content ขายเองด้วยนะ แบบสรุปในตำนานที่ร้านก็จะมีเหมือนกันงี้ ก็เลยกลายเป็นร้านซีร็อกตั้งแต่นั้นมา ซึ่งก็คือบล็อกสรุปงานที่เราไปมาแหละ แค่เป็นช่องทาง Twitter แล้วมันทำได้ไวกว่าเฉย ๆ

ติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ และทุกช่องทางโดเนทกันไว้ที่นี่เลย

ติดตามข่าวสารแบบไว ๆ มาที่ Twitter เลย บางอย่างไม่มีในบล็อก และหน้าเพจนะ